ข้อมูลและรูปภาพเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

Sunday, August 31, 2008

มีแฟนทั้งที ขืนตาถั่วก็เจ๊ง

ยามตกหลุมรัก แหงสิที่ใครๆย่อมอยากรักษาความสัมพันธ์เช่นนี้ไว้ให้ยั่งยืน เพราะหลังจากนั้น...แห้ม...ก็หลังจากผ่านช่วงเวลาจีบกันอย่างอุตลุดคลุกคลานน่ะซี...ถามได้ ทีนี้ล่ะใครจะแน่ใจมั่งว้า ว่า ช่วงเวลาโปรโมชั่นที่ฝ่ายหญิงมักได้รับการทะนุถนอมเอ็นดูอย่างกะ “ไข่ในหิน” จาก “แฟนที่ทุ่มไม่อั้น” เพื่อหวังคว้าใจของสาวเจ้ารายนั้นมาให้ได้
งั้นคงดีแน่ๆเลย ถ้าจะทำความรู้จักกับ “หนึ่งในดวงใจ ณ ตอนนี้ของคุณ” ให้มากขึ้น เพื่อให้รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงก่อนเริ่มต้นชีวิตคู่เพื่อไม่ให้กลายเป็น “นักโทษในกรงเหล็ก” ไม่ใช่นกน้อยในกรงทองนะยะ อย่าสับสน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเป็นแฟนกะใครสักคน ไม่ต้องมาก ขอแค่คนเดียว เอาให้รอดก่อนเหอะ...อุ๊บ จึงควรมีแนวทางในการตัดสินใจเลือก “คู่แท้สองโลก”...ฮี่ฮี่นี่ล้อเล่นมาร่วมเรียงเคียงกายมั่งละน่า เช่น...
1. เค้าไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์, สมองเสื่อม และความจำสั้นแน่นะ
เอ้า เรื่องนี้สำคัญนะ อย่างน้อยก็รับประกันได้ว่าเค้าคงไม่ลืมวันคล้ายวันเกิดของคุณ, วันแรกที่เค้าให้ ดอกไม้กับคุณ เพราะหลัง จากนี้คงมีสาวน้อยรายแหงๆที่จะได้เห็นเค้าทำเซอร์ไพรส์ให้ ดอกไม้เหมือนสมัยนู้นอิอิ ไปจนถึงวันครบรอบวันแรกที่เราทะเลาะกันอย่างนิ่มนวล ซึ่งก็อีกตอนนี้คงตบตีกันอลหม่านกันไปแล้วยังก็บ่ฮู้ แต่ยังไง๊ยังไงขอยืนยันว่า แฟนที่ดีควรจำวันสำคัญที่เค้าอาจมองว่าแสนจิ๊บจ๊อยซะเหลือเกิน ทว่าเป็นวันแห่งความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ของอีกฝ่ายให้ดี...เอาไว้ก่อนดีที่ซู้ด
ไม่ต้องจำให้มันตรงเป๊ะๆร้อก จะจำคลาดเคลื่อน ไปบ้างก็ได้ไม่ว่ากัน เช่นวันแรกที่เอ่ยปากบอกเลิฟ สมมติเค้าพูดคำนั้นในวันที่ 1 มกราคม...ก็ขอให้จำได้คลับคล้ายคลับคลาเป็นวันที่ 2 หรือ 3, 4, 5 มั่งก็ยังดีกว่าลืมไปเลย, ไม่สนใจอีกเลย เพราะดันไปสนใจอะไรอื่นแทนแล้วอ่ะดิ
โอ๊ย ไม่โรแมนติกเอาซะเลยวุ้ย แต่สาวบางคนอาจแย้งว่า แค่เค้าจำได้ว่าตอนนี้หล่อนเป็นแฟนเค้าก็ดีแล้ว เฮ่อ....ทีพอเป็นแฟนกันแล้วผู้หญิงชอบง้อฝ่ายชายแฮะ คงกลัวว่าแม้แต่ “รถไฟเที่ยวสุดท้าย” ก็ยังคว้าไว้ไม่ทันมั้ง หรืออาจ “ไม่มีรถไฟเที่ยวสุดท้ายวิ่งผ่านหล่อนแล้ว” หรือไงไม่ทราบ
2. สุขภาพทั้งหล่อนและเค้าเป็นไงบ้างล่ะ?
คนที่คุณหลงน่ะ ตานั่นมีปัญหาสุขภาพด้านใดอยู่รึเปล่า? เช่น เป็นมะเร็ง, เป็นลูคิเมีย หรือเป็นเอดส์ ไหม? ถ้ารู้ล่วงหน้าจะได้หาทางช่วยเหลือเค้าทัน...มีน้ำใจนะเนี่ย แต่หากเป็นเอดส์ก็น่าคิดนะว่ายัง ควรเอามาทำแฟนอีกเหรอ? เดี๋ยวติดโรคจากเค้าไปด้วย ก็ซวยสิ แต่พูดนี่ไม่อยาก ให้ไปรังเกียจรังงอนคนติดเชื้อเอชไอวีและเอดส์นะ เพราะถ้าเป็นเพื่อนน่ะเป็นได้ แต่หากต้องนอนด้วยกัน มีปฏิสัมพันธ์ทางกายภาพ...อุ๊ย พูดซะน่าเวียนหัว งั้นสรุปเลยล่ะกันว่า หากมีเพศสัมพันธ์กันอย่างลึกลับ... เอ๊ย ลึกซึ้ง ก็น่าเสียวไส้ ใช่ป่าว แต่ถ้ามีอาการไม่สบายอย่างอื่น เช่น เจ็บคอเป็นหวัด, ปากเป็นแผลหรือร้อนในอะไรเงี้ยะ ควรประคบประหงมดูแลกันและกันซะเถอะ คนเราจะเป็นคู่ทุกข์คู่ยากของกันและ กันก็ควรเอาใจใส่หน่อยเด้
3. ประวัติเทือกเถาเหล่ากอของแต่ละฝ่ายล่ะเป็นไง?
คนที่คุณไปติดบ่วงเสน่หาน่ะ เค้ามีความรักความผูกพันหรือขัดแย้งกับใครเป็นพิเศษในครอบครัวหรือเปล่า? หรือสมาชิกในครอบครัวของเค้ารักกันชิปเป๋งหรือโต้วาทีกันทุกวันไหม?
ที่สู่รู้ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะบางคนเหมาะจะเป็นแฟนของใครอีกคน หากเค้าทะเลาะกับพี่น้องซะบ้างไม่ได้รักกันจนกลมดิกประเภทแห่กันไปไหนไปนั่น, ติดกันเป็นพรวนแบบแยกกันไม่ค่อยออก หรือกว่าจะแกะกันออกก็โอ๊ย....แฟนเฟินเกือบหมดความอดทน! เพราะไม่มีเวลาสวีตกัน 2 ต่อ 2 มั่งเลย หรือมีเวลา “ส่งตาหวาน” เช่นกัน แต่น้อยนิดซะเหลือเกิน
โห ยังไม่ทันดื่มน้ำสักอึก ก็เอาแล้ว ไม่รู้ ญาติโกโหติกาตั้งแต่สมัยไดโนเสาร์ดันโผล่มาอีกแล้ว งั้นตกลง เค้าไม่คู่ควรกะเรา หรือเราไม่ คู่ควรกะเค้าวะ?
4. มีงานอดิเรกอะไรกันบ้างอ่ะ?
ชอบดูหนังฟังเพลง หรือชอบไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะแล้วช็อปปิ้งไปด้วยแบบโอเพ่น มาร์เก็ต เช่น ตลาดนัดสวนจตุจักร หรือนิยมไปออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายที่โรงยิมหรือฟิตเนสที่ไหนกัน? แต่มีนะบางคนไม่ชอบทำอะไรเลยสักอย่างที่ว่ามา เพราะสนใจอย่างเดียวคือเล่นไพ่ แถมพี่แกก็เล่นมันทั้งวันทั้งคืนอยู่นั่นแหละ ไม่รู้จักประยุกต์ไปเรียนเป็นหมอดูไพ่ยิปซีหรือหมอดูถอดไพ่เพื่อหารายได้มาช่วยอีกฝ่าย “ก่อร่างสร้างตัว”...เออก็ทำกันได้แฮะ
ขืน ใครคว้าคนหยั่งงี้มาเป็นแฟน คงได้ร้อง เพลง “ทำไมถึงทำกับชั้นได้” ไปอีก 5 ชาติแหงๆ
5. อยากได้แฟนมีความรับผิดชอบแค่ ไหนล่ะ?
หากเป็นหญิงที่ปรารถนาอยากมีคู่เป็นคนมีความรับผิดชอบสูง หรือไม่งั้นแค่รับผิดชอบพอหอมปากหอมคอก็ได้ฟะ แต่ไอ้ที่มีอยู่ดูแล้ว “มันไม่ใช่อ่ะ” เพราะแม้แต่ตัวเค้าเองก็ยังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้ เช่น เสื้อผ้าใส่แล้วก็ทิ้งกองไว้เป็นเดือน, จานชาม กินแล้วก็ทิ้งไว้จนแมลงสาบแทะแถมหนูก็ชอบโผล่ออกมาวิ่งเล่นอยู่ในห้องล่ะก็ หากยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงกัน เลือกคนนี้ก็ขออนุโมทนาสาธุด้วย
แต่ไม่รู้นะ ว่าใครคิดยังไง ทว่า “การมีคู่” ยังไม่ถึงกับเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนสูงสุดในชีวิตหรอก เพราะคุณยังรอ “วัดใจ” คนอื่นๆในอนาคตได้อีกน่ะฮ้า.
หาคู่ หาเพื่อน หาแฟน www.thaidarling.com

Sunday, August 24, 2008

ต้นขาใหญ่ ทำไงดี

เมื่อใครๆ ต่างชื่นชอบที่จะชวนคุณไปทานข้าวขาหมู และสั่งข้าวเปล่าทุกครั้งเพราะขาหมูมีอยู่ที่คุณแล้ว คุณคงยิ้มแบบหน้าชื่นอกตรม รีบหาตำราลดแข้งลดขาเป็นการใหญ่ วันนี้เรามีวิธีลดต้นขาให้ดูเรียวงาม เรียกว่าหนุ่มคนไหนที่เคยประณามหยามเหยียดคุณไว้ ต้องรีบมาสยบและสมัครเป็นบอดี้การ์ดเลยทีเดียว

ประการแรกสุด ใจแข็งเข้าไว้ อย่าปล่อยให้ตัวเองเคลิบเคลิ้มไปกับอาหารอันโอชะ ที่เต็มไปด้วยไขมัน จำไว้ว่า เด็กๆอ้วนน่ะน่ารัก แต่ผู้ใหญ่อ้วนน่ะน่าเกลียด ประการที่สอง บริหารร่างกาย หรือออกกำลังซะบ้าง โดย…….

ยกเวทด้วยขา โดยใช้เวทที่มีน้ำหนักขนาด 1 กิโลกำลังดี โดยให้คุณนั่งเก้าอี้ จากนั้นวางเวทไว้บนขาแล้วยก หรือ จะให้ดีควรนอนราบกับพื้น ผูกเวทติดไว้กับขาแล้วยกให้สูงจากพื้น 45 องศา จากนั้นยกค้างไว้ เมื่อร่างกายของคุณปรับสภาพให้เข้ากับน้ำหนักของเวทได้แล้ว ก็เริ่มยกขึ้น-ลงให้เร็วขึ้นโดยทำทีละข้างๆละเท่าๆกัน หากคุณมีเวท 2 อันก็อาจยกขึ้นลงสลับกันก็ได้ เมื่อชำนาญแล้วอาจยกให้สูงขึ้นกว่าเดิมอีก เน้นให้ต้นขาได้ขยับเขยื้อน ทำเช่นนี้ 3 เซ็ทๆละ 10 ครั้ง โดยทำอาทิตย์ละ 2-3 ครั้งก็จะดีค่ะ

ลดต้นขาด้านในก็ทำได้ง่ายๆ โดยการนอนราบลงบนพื้น จากนั้นไขว้ข้อเท้าไว้ด้วยกัน แล้วขอเข่าเข้ามาให้ชิดร่าง กาย แล้วยืดออก จากนั้นให้คลายเท้าทั้งสองออกจากกันกลับมาสู่ท่าเดิม แล้วเริ่มทำใหม่ 16- 24 ครั้งต่อวัน ต้นขาด้านในของคุณจะดูเล็กลงค่ะหากคุณขี้เกียจซื้ออุปกรณ์ ก็ให้คุณว่ายน้ำ ขี่จักรยานอยู่กับที่ หากคุณปั่นจักรยานด้วยความเร็วสูงต้นขาจะลดทันตาเห็น แต่หากคุณปั่นช้า น่องของคุณก็จะใหญ่ขึ้นทันตาเห็นเช่นเดียวกัน นอกจากนี้กีฬาที่ต้องใช้ขาอื่นเช่น ปีนเขา เดินทน หรือแอโรบิคก็ช่วยได้ค่ะ แต่ขอเตือนด้วยความหวังดี สำหรับกีฬาแอโรบิค เพราะมันไม่ได้ทำให้คุณผอมลงนะคะ แต่มันจะทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น ต้นขาอาจจะดูเล็กลงเพราะความกระชับของกล้ามเนื้อ แต่น่องจะใหญ่ขึ้น บรรดากีฬาที่ใช้ขาทั้งหลายเหล่านี้ยังช่วยลดไขมันที่มาสะสมบริเวณหัวเข่าได้ด้วยค่ะ

ควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ให้คุณๆจำไว้อย่างหนึ่งว่า ร่างกายของแค่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนเกิดมาพร้อมกับเซลลูไลส์ แม้ว่าจะพยายามออกกำลังกายให้หนักอย่างไร ก็ไม่สามารถกำจัดให้หมดสิ้นลงได้ ผลที่ตามมาของการมีเซลลูไลส์มากๆ คือ แผลพอง ที่เกิดจากการเสียดสีกันของเนื้อที่ต้นขาทั้งสองข้าง นำไปสู่การอักเสบ ผิวหนังถลอก และปวดแสบปวดร้อนดังนั้น หากคุณรู้ตัวว่าเป็นคนที่มีฉายา ว่าแม่ขาหมู การควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จึงเป็นสิ่งที่คุณจะต้องปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ความฝันที่จะเป็นสาวขาเรียวเป็นจริงได้ในสักวันข้างหน้าค่ะ

Sunday, August 17, 2008

เลือกคู่อย่างไร ให้ใจสยิวซู่ซ่า

ยามตกหลุมรัก แหงสิที่ใครๆย่อมอยากรักษาความสัมพันธ์เช่นนี้ไว้ให้ยั่งยืน เพราะหลังจากนั้น จะแน่ใจได้ไงว่า พอผ่านช่วงตกหลุมรักไปแล้ว ทีนี้อีกนานแค่ไหนล่ะที่จะหมดช่วงโปรโมชั่น ซึ่งเป็นช่วงที่ทั้งสองฝ่ายเอาอกเอาใจกันนักนั่นเอง ประมาณซื้อของมาประเคนกันจนหลงระเริงเปิดเปิงไปเลย
ดังนั้น ดีกว่าไหม ถ้าจะทำความรู้จักกับ “หนึ่งในดวงใจ” ในตอนนี้ของคุณให้มากขึ้น ก่อนเริ่มต้นชีวิตคู่เพื่อไม่ให้มันกลายเป็น “ชีวิตคุก” ว่างั้นมาหรรษาพาเพลินกับ สิ่งที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเป็นแฟนกะใครสักคน อย่างน้อยช่วยเป็นแนวทางเลือกคู่ได้บ้างล่ะว้า เช่น...
1. คุณวาดฝันและปรารถนาในตัวคนรักยังไงเหรอ? ส่วนที่เจอแล้วน่ะนิสัยตรงสเปกมะ? ขืนคนไหนอยากได้แฟนเป็นแม่บ้านแม่เรือน และยกงานบ้านให้แฟนรับผิดชอบเพียงผู้เดียว งั้นควรสอบถามหรือสังเกตเอาแล้วล่ะว่า ฝ่ายที่คุณคบอยู่ เค้าชอบ งานบริการสมาชิกในครอบครัวเป็นชีวิตจิตใจรึเปล่า? ไม่ใช่รักที่จะทำงานนอกบ้านตลอดเวลา แบบนี้ ขืนมีลูกคงต้องเป่ายิ้งฉุบ เพื่อสลับกันดูแลอ่ะเดะ หรือจะวานญาติและจ้างใครมาเลี้ยงลูกให้ก็ตกลงกันให้ รู้เรื่องซะก่อน
แต่ “การมีคู่” ยังไม่ถึงกับเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนสูงสุดในชีวิตหรอกนะ คุณจึงรอ “วัดใจ” คนอื่นๆที่จะเข้ามาในชีวิตได้อีก ทว่า ท่านใดอยากมีคู่เพราะอยากมีลูกก็ว่ากันไป
2. วันสำคัญในชีวิตของทั้งคู่
เช่น ครบรอบวันที่สารภาพรักครั้งแรก, วันคล้ายวันเกิด, จูบครั้งแรก หรือวันออกเดทแรก ถือเป็นวันสำคัญยิ่งยวดที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ควรแกล้งลืมหรือไม่ให้ความสำคัญ เพราะเชื่อเหอะว่า ผู้หญิงจะให้ความสำคัญกับวันเหล่านี้เป็นพิเศษ แถมยังหวังว่าแฟนของเธอก็ควรจำวันเหล่านี้ให้ได้ด้วย
เพราะงี้ถ้าคุณเป็นฝ่าย “ไม่เอาไหน” ในเรื่องความจำ แต่ดันไปรักไปชอบกับคนจำแม่น จำเก่งล่ะก็ ถ้ายังไปกันรอดก็เชื่อเค้าเลย แต่ ถ้ารีบปรับตัวก็ยังพอทำเนา
3. สุขภาพแข็งแรงก็มีกำลังวังชาดี
คนที่คุณชอบพออยู่นั้น เค้ามีปัญหาสุขภาพรึเปล่า? เช่น เป็นมะเร็ง, เป็นลูคิเมีย หรือเป็นเอดส์ไหม ถ้ารู้ล่วงหน้าจะได้หาทางช่วยเหลือทัน แต่หากเป็นเอดส์นี่ก็น่าคิดนะว่ายังควรจะเอามาทำแฟนอีกเหรอ เดี๋ยวก็ติดโรคจากเค้าไปด้วยก็ซวยสิ อย่าว่าแต่โรคเอดส์เลยที่ควรระวัง เพราะแม้แต่โรคซิฟิลิส หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ทางเพศทั้งหลายก็ควรถอนตัวไปซะเถอะ นี่ไม่ได้ให้รังเกียจคนเป็นเอดส์นะ เพราะการคบเป็นแฟนกับคบเป็นเพื่อนคงไม่เหมียนกันแหงๆ แต่หากไม่สบายอย่างอื่น เช่น เจ็บคอเป็นหวัดควรประคบประหงมดูแลกันและกันดีฝ่า ลองเป็นคู่ทุกข์คู่ยากของกันก็ควรเอาใจใส่ หน่อยเด้
4. ประวัติ ครอบครัวเดิมของทั้งสองฝ่าย
เช่น ต่างฝ่ายต่างมีความรักความผูกพันหรือขัดแย้งกับใครเป็นพิเศษในครอบครัวหรือเปล่า? สมาชิกในครอบครัวของเค้าลงรอยกันไหม? ถ้าไปเจอคนที่สมาชิกในครอบครัวของเค้ารักใคร่กลมเกลียวกันดี ก็น่าส่อเค้าที่ดีว่า เค้าน่าจะเป็นคนรักครอบครัว และให้ความสำคัญกับครอบครัวก่อนใครเพื่อน ว่าแต่ต้องตรองดูเหมือนกันนะว่า ครอบครัวไหนที่เค้ารักมากกว่ากัน จะเป็นครอบครัวเดิม หรือครอบครัวใหม่ที่คุณทั้งคู่กำลังจะเริ่มต้นด้วยกัน...ห้า
5. ชอบและไม่ชอบอะไรบ้าง? มีใครที่ชอบเหมือนกันไปหมดด้วยเรอะ?
เช่น สถานที่ท่องเที่ยวแบบไหนที่คนที่คุณแอบรักชอบน้า? จะได้ดอดไปเที่ยวกันสองต่อสองไง หรืออาหารจานเด็ดประเภทใดที่เราชอบเหมือนๆกันจะได้หิ้วกันไปดื่ม ดริ๊งก์ เจี๊ยะจ๊าบกันให้อร่อยเหาะสักที ในเมื่อรักใคร่ชอบพอกันทั้งทีก็ต้องหาโอกาสไปสรวลเสเฮฮาและสังสรรค์กันตามลำพังบ้างซี ถ้าชอบอะไรคล้ายกันมันก็ดีไปอย่าง เพราะจะได้ ไปไหนมาไหนหรือมีกิจกรรมร่วมกันดีออก
แต่หากชอบไม่เหมือนกันสักอย่าง ก็อย่าได้ ถอดใจตีจากไปซะก่อน เพราะบางที การเรียนรู้ในสิ่งที่ “ชอบต่างกัน” นี่แหละ ช่วยเปิดโลกทัศน์ หรือมุมมองใหม่ๆได้นะ
6. งานอดิเรก ยามว่างชอบทำอะไรกันน้อ?
ต่างฝ่ายต่างชอบทำอะไรยามว่างบ้างล่ะ ดูหนังฟังเพลง หรือชอบไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะแล้วช็อปปิ้งแถวจตุจักร หรือ นิยมไปออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายที่โรงยิมหรือฟิตเนสก็ดีหมดแหละ ส่วนที่ชอบไปเล่นตีแบดฯ หรือหวดลูกสักหลาดก็ขึ้นอยู่กับความถนัด พูดถึงงานอดิเรกนี่ อย่าถือเป็นเรื่องจิบจ๊อยนะ เพราะงานอดิเรกน่ะ ช่วยตัดสินว่าใครควรคู่กับใครมาหลายคู่แล้ว อย่าดูถูกเชอะ
7. ความต้องการทางเพศ ด้านเซ็กซู่ซ่ามีมากน้อยขนาดไหน?
เค้าและคุณมีแรงขับดันทางเพศแบบคาสโนว่าจอมเจ้าชู้บันลือโลก หรือแบบขันทีที่แค่อยากแต่ร่วมรักไม่ได้ ทว่าบางคู่ชอบแค่ลูบๆคลำๆก็ถมเถไป ซึ่งแรงสิเน่หาอยากร่วมรักนี่แหละเป็นสิ่งที่ควรนำมาพิจารณาชั่งใจกันให้ถี่ถ้วน หากเค้าเซ็กซ์ จัดเหลือเกิน วันๆเอาแต่คิดถึงเรื่องโรงแรมม่านรูดที่ไหนดี แถมยังสะสมวีซีดีเอ็กซ์เพียบ ในทางตรงข้ามคุณกลับเฉยๆชาๆกับความต้องการในด้านนี้ ขืนจับคู่กันระวังกระเจิด กระเจิงเกิดความไม่สมดุลย์ ทางเพศได้นะ หรือถ้าคุณเป็นจอมหื่น แต่เค้าไม่ชีกอ, ไม่เจ้าชู้แถมยังไม่ปึ๊งปั๊งปู้ดป้าด ก็ยากที่จะไปกันได้ ยกเว้นฝ่ายไม่เจ้าชู้จะยอมให้จอมหื่นไปหาเศษหาเลยนอกบ้าน ก็ควรบอกกันและยอมรับกันซะเนิ่นๆ เฮ้อ! มีรักทั้งทีก็กลับมีเรื่องเซ็กซ์มาขวางซะนี่
บอกคร่าวๆแค่นี้ คงวาดภาพ “คู่แท้แสนรันทด” เอ๊ย รักแท้นิรันดรได้นะฮ้า.

Friday, August 8, 2008

กินอะไรให้ฟันขาว

อยากจะยิ้มยิงฟันขาวๆ ให้สวยสะดุดใจคนข้างๆนอกจากจะพึ่งบริการหมอฟัน หรือยาสีฟันแบบฟอกฟันขาวแล้วอาหารการกินก็ช่วยได้นะ
1.เปลี่ยนจากไวน์แดงมาเป็นไวน์ขาวแทน เพราะไวน์แดงจะทิ้งคราบไว้ที่ฟันอีกนาน
2.ดื่มชากาแฟ ให้เติมนมลงไปเยอะๆ ลดความเข้มของกาแฟลง เพราะคาเฟอีนจะทำให้ฟันเหลือง
3.ทานผักผลไม้ที่เนื้อสากๆ ให้ฟันได้เคี้ยว และเป็นการขัดฟันไปในตัว
4.หลังจากดื่มน้ำผลไม้สีๆ ทั้งหลาย ให้รีบแปรงฟัน
5.ดื่มน้ำเปล่าให้มากเข้าไว้

Monday, August 4, 2008

สูตรลับหน้าขาว

1. มะขามเปียก
2. นมสด
3. น้ำผึ้ง
วิธีทำ ผสมน้ำมะขามเปียก นมสด และน้ำผึ้ง (ใส่นมสด และน้ำผึ้งแค่ครึ่งหนึ่งของน้ำมะขามเปียก) จากนั้นตั้งไฟอ่อนๆ คนให้เข้ากัน ทิ้งไว้ให้เย็น เป็นอันว่าเสร็จแล้วค่ะ

วิธีเก็บรักษา - ใส่ในภาชนะที่มีฝาปิดแล้วแช่ในตู้เย็น สามารถ เก็บไว้ได้นานเท่าที่ต้องการเลยค่ะ

วิธีใช้ - ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่า เช็ดให้แห้ง แล้วทาครีมมะขามเปียกให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที หรือนานเท่าใดก็ได้ ตามใจผู้ใช้ แล้วล้างออกตามปกติ

ข้อควรระวัง - หลีกเลี่ยงการทาบริเวณดวงตา เพราะอาจจะทำให้ระคายเคืองได้

ข้อพึงกระทำ - ถ้าต้องการให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ควรทาครีมมะขามเปียกในขณะที่ครีมเย็น หรือเพื่งจะเอาครีมออกจากตู้เย็น เพราะความเย็นจะทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าก็จะเรียบขึ้นค่ะ

Sunday, August 3, 2008

เหตุผลที่ผู้ชายนอกใจ

ท่านผู้อ่านเคยถูกแฟนหรือคนรัก “นอกใจ” บ้างป่าว? หากใครมีบทเรียนจากการถูกแฟนนอกใจไปมีคนใหม่ หรือ จู่ๆก็ขอเลิกรากันอย่างปุ๊บปั๊บ นี่หากใครพอได้ยินเรื่องพรรค์นี้ละก็ ส่วนใหญ่ฟังแล้วมักจะโบ้ยความผิดไปให้ “ฝ่ายที่เริ่มนอกใจ” ไปมีรักใหม่ก่อนแหงๆ
แล้วคิดมะว่าเพราะอะไรว้า? เคยรักกันอยู่ดีๆ พอวันต่อมาเกิดเปลี่ยนใจซะดื้อๆ แบบไม่มีปี่ มีขลุ่ย หรือ อาจมีแววและสัญญาณไม่ชอบมา พากลให้รู้ก่อนก็ได้นะ เพราะผู้เขียนเป็นคนนอกย่อมไม่รู้ดีเท่าคนนอนเตียงเดียวกันหรอกนะฮ้า แต่ที่แน่ๆ ฝ่ายที่ถูกบอกเลิกย่อมเสียอกเสียใจ และอาจเสียศูนย์ไปด้วยเป็นธรรมดา โถ ถ้ารักใครแล้ว “คนที่มีรักแถมเป็นคนดี๊ดี” ส่วนใหญ่จึงอยากรักษาความรักไว้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ทั้งนั้นแหละ คงไม่มี “คนสติดี” ที่ไหนวางเป้าหมายเรื่องนี้ไว้ว่า รักแล้วจะเลิกเร็ว หรือ รักเมื่อไหร่ เดี๋ยวก็เลิกกันได้...หรอกเฟ้ย ขืนคิดงี้ก็อย่ารักเลยดีกว่า ทำให้คนอื่น (ที่อยากเข้ามาพัวพันกะคุณด้วย) เค้าเสียเวลาไปเปล่าๆ โอ๊ยรักสนุกหยั่งงี้ไม่พิสดารไปหน่อยเหรอ นี่น่าจับไปอยู่ “พิพิธภัณฑ์แปลกแต่จริง” ท่าจะแจ๋วซะกว่า
บอกตามตรง สาเหตุของการนอกใจ ก็ไม่เสมอไปว่า ฝ่ายคนที่เปลี่ยนใจก่อนจะเป็นฝ่ายผิด หรือเป็นผู้ร้ายเสมอไป เพราะบางทีการที่เปลี่ยนใจหรือนอกใจกัน อาจมีเหตุผลที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่าที่คนภายนอกคิดไว้เป็นกะตั้กๆๆ เท่าที่ประมวลสาเหตุของการนอกใจทั้งที่เมคเซ้นท์ (มีเหตุผล) และไม่เมคเซ้นท์ (ไร้สาระ) รวมทั้งพยายามหาข้ออ้างทำให้น่าเชื่อถือเข้าไว้ มีอยู่หลายประการ ดังนี้... 1. นอกใจเพราะผิดหวังแฟนอยู่ลึกๆ
เพราะ ตอนที่จีบกัน ต่างคนต่างพยายามแสดงออกในด้านดีล้วนๆให้อีกฝ่ายประทับใจน่ะซี ถ้าไม่งั้นจะมีใครตกหลุมยอมเป็นแฟนฟะ แต่หลังจากนั้นพอทั้งคู่หอบผ้าหอบผ่อนมาอยู่ร่วมบ้านชายคาเดียวกันแล้วนี่สิ ทีนี้ล่ะ นิสัยดี-ไม่ดี ของแต่ละฝ่ายมักเปิดเผยให้รู้ไส้รู้พุงกันล่ะคราวนี้ แล้วคิดรึว่า ต่างฝ่ายจะยอมรับนิสัยของกันและกันได้ ทั้งหมดน่ะ! บางคู่อาจเก็บเจ้าความรู้สึกไม่ชอบใจนี้มาผสมเล็กผสมน้อยฝังอยู่ในใจรอวันระเบิดออกมาก็ได้ อ๊ะอย่าลืมสิว่า ต่อให้คุณรักแฟนมากแค่ไหน แต่ “ความไม่ดีบางอย่าง” ของเค้า อาจทำให้คุณอึ้งจนมองผ่านมันไปไม่ได้เหมือนกันนะ
ส่วนบางคู่ยิ่งกว่าที่เล่ามาข้างต้นซะอีก ขนาดแค่เป็นแฟนกัน ก็นอกใจกันแล้วเพราะยอมรับการกระทำของแฟนไม่ได้ตั้งแต่สมัยจีบกันยังมีเล้ย แต่จะมีกี่คู่ไหนที่ยอมรับและกล้าพูดกันอย่างเปิดอกถึงเรื่องนี้ “ก่อนตีจาก” มั่งก็บ่ฮู้ เพราะไอ้ที่ว่าดูตัวดูใจดูนิสัยกันละเอียดยิบแล้วก็เหอะ ยังเลิกกันปาวๆ นักต่อนักมาแล้ว โธ่...โลกนี้หาความแน่นอนแท้จริงไม่ได้หรอกตัว!
2. นอกใจเพราะอยากรักหลายๆคนพร้อมกัน ก๊ะแสดงว่า 1 ไม่พอต้อง 2, 3, 4...
ส่วนใหญ่ผู้คิดแบบนี้หนีไม่พ้นคนเจ้าชู้ แต่จะ เจ้าชู้เปิดเผย หรือ เจ้าชู้เงียบ ก็ขึ้นอยู่กะใจของแต่ละคนแล้วล่ะ สงสารก็แต่คนที่มีแฟนแบบนี้มากกว่า เพราะคงมีช้อยส์เหลือให้เลือก 2 ประการ เช่น 2.1 เห็นแฟนนอกใจได้ ก็ทำเย้ยเค้ามั่ง กับ 2.2 เห็นแฟนนอกใจก็ทำใจซะ แล้วตัดสินใจว่ายอมรับได้ไหม? ถ้ารับได้ ก็ต้องคิดต่ออีกว่าคุณจะอยู่กับแฟนแบบนี้อย่างไร ถึง “จะไม่ อึดอัดใจหรือเสียความรู้สึก” อ่ะดี้ เพราะอย่างใครก็ไม่รู้พยายามเตือนสติว่า หากเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ เราก็ต้องเปลี่ยนตัวเราเอง แต่ทำแล้วคุ้มกันรึเปล่า? อย่าลืมคิดถึงตัวเองมั่งละกัน
3. นอกใจเพราะเบื่อ และหมดรักซะแล้ว
เจอะงี้ คงไม่ต้องอธิบายให้เจ็บเหงือก, เป็นแผลที่ลิ้นและเสียดหัวใจกันแล้วเนอะ เพราะหัวข้อก็อธิบายได้อยู่แล้ว โธ่อย่าบอกนะว่าไม่รู้ไม่ชี้... หน่อมแน้มไปเพ่ เอาเป็นว่า หากคู่ใดลงเอยด้วยความเบื่อหน่ายหรือไม่เหลือรักแล้วไซร้ ต่อให้แฟนสาวหันมาเอาใจเค้าด้วยการแต่งตัวเซ็กซี่แค่ไหน ไม่ว่าจะค่อยๆเปลี่ยนการแต่งตัวจากเรียบร้อย มาใส่เสื้อสายเดี่ยว, สายสปาเกตตี หรือผ้าเช็ดหน้าคาดอก เค้าก็ไม่ซู่ซ่าแล้วล่ะ ส่วนฝ่ายชายที่ถูกสาวสลัดรักก็มีเช่นกัน ดังนั้น ต่อให้ตามตื๊อหรือคอยเอาใจหล่อน แค่ไหน หากใจไม่ดึงดูดกันแล้ว ก็ยากที่จะกลับมาดูดดื่มเหมือนเดิมนะฮ่ะ
4. นอกใจเพราะถูกจับคุมถุงชนให้แต่งงาน แล้วรักจะยั่งยืนรึนั่น?
อ่านถึงตรงนี้คงคิดว่า เรื่องงี้ปัจจุบันคงไม่มีแล้ว แต่ที่ไหนได้ยังมีนะเอ้า ซึ่งหากเป็นเมื่อก่อน คนที่ถูก บังคับให้มีคู่ตามใจบุพการีหรือตามใจใครก็ไม่รู้ล่ะ “พ่อแม่ของคู่รักเยอะเลย” มักคิดเอาเอง ว่า เดี๋ยวอยู่ด้วยกันไป แล้วก็รักกันเอง แต่สมัยนี้จะเป็นงั้น รื้อ? เพราะสิ่งแวดล้อมยั่วยวนให้มนุษย์อดทนน้อย ลง แถมหนุ่มยังหนีไปเที่ยวพับเที่ยวบาร์และอาบน้ำนอกบ้านได้อีก ฉะนั้น โอกาสนอกใจนอกกายจึงทำได้ ทุกนาที จะเอาเที่ยวราตรีแบบไหนล่ะ บอกมาสิ
5. การนอกใจยังเกิดจากสาเหตุอีกหลายประการ
บางคนอ้างอย่างงี่เง่าว่า นอกใจเพราะแฟนไม่ยอมให้สมสู่ด้วย จึงต้องไประบายกับคนอื่นแทน ไม่งั้นก็อ้างอีกแหละว่า เพราะคนอื่นช่างออเซาะกว่านี่หว่า แถมเอาใจใส่ก็เก๊งเก่ง และไม่ทึ่มทื่อเหมือนแฟนตัวจริงด้วย จึงหันไปจี๋จ๋าเจ๊าะแจ๊ะเป็นกิ๊กกะคนใหม่ซะเลย โอ้โห ขืน “ใจง่าย” ปานฟ้าแลบแบบนี้ ก็ไม่สมควรไปรักให้เสียเวลา เพราะเค้าพร้อมไปซบอกคนใหม่ได้ตลอดเวลาอ่ะดิ่
ที่เล่ามารับรองว่า ไม่สนับสนุนให้คู่รักมี ชู้ทางใจ หรือนอกใจกันแน่ๆ เพราะอยากให้ “รักแท้ชั่วนิรันดร์” มีจริงและสามารถพบได้ในโลกแห่งความจริง ไม่ใช่แค่เก็บไปฝัน ไม่งั้น “รักแท้” คงโดนสึนามิถล่มจมหายย่อยยับไปแล้วสิฮ้า ว้าย! อย่าปล่อยให้ฝันค้างได้ปะ.
คลิก Older Posts เพื่ออ่านหน้าต่อไป