ข้อมูลและรูปภาพเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

Saturday, February 28, 2009

ทายสิอะไรทำให้แฟนยังรักคุณ?

สงสัยมะ ว่าอะไรทำให้แฟนยังคงรักคุณอยู่ จนถึงทุกวันนี้? (ใครไม่สงสัยก็ให้มันรู้ไป!) นี่แค่อยากให้คู่ที่เพิ่งสวีวี่วีสวีตเลิฟกัน อ้อ คู่ที่รักกันมานานนมแล้ว ยกมือตอบกันหน่อยเป็นไร

ถ้าตอบได้ แสดงว่ายู (คุณ) แน่มาก เดี๋ยวจะมอบโซ่...เอ้ยโล่ให้ แต่หากตอบไม่ได้ หรือยังอึ้งกิมกี่, พูดไม่ออกบอกไม่ถูก หรือออกอาการเก๊กซิมไปเลย เพราะลืมไปแล้วว่ามีแฟน...อ้าว!

หากตอบไม่ได้ หรือไม่ทราบก็ไม่เป็นไรท่าน เพราะใครเลยจะรู้ใจ “สุดเลิฟ” ของตัวไปซะทุกอย่างล่ะจริงมะ แถมเรื่องพรรค์นี้น่ะ ฝ่ายเป็นแฟนก็ไม่ค่อยยอมบอกยอมพูดให้ฟังซะด้วยว่า ตัวเองคิดยังไงกับอีกฝ่ายนึง? ทั้งๆที่หากจะบอกจริงๆก็เป็นเรื่องง่ายมาก แหมใครจะรู้ดี ไปกว่าทั้งคู่เล่า

บางคู่งี้ อย่ากระแซะถามเรื่องนี้เชียว พิกุลไม่ร่วงออกมาหรอก คงชอบปล่อยให้เดาเอาเองสิท่า แต่นี่ยังดีกว่าพวกที่เอาแฟนไปพูดนินทาลับหลังให้คนอื่นฟังนะ เฮ่อ...ตกลงไอ้คู่นี้มันจะรักหรือจะจับผิดกันแน่ฟะ? แต่เออมีหลายคู่นะที่รักตอนเริ่มต้น แต่พอนานเข้าทำมั้ยถึงห่างเหินว้า

งั้นเฉลยปริศนาดีกว่าว่า อะไรที่ทำให้ “คนที่คุณรัก” ยังอยากหวานชื่นและอยู่ใกล้ๆคุณทุกวี่ทุกวันน้า? ทั้งๆที่บางคน (ที่มีแฟนแล้ว) อาจนึกไม่ถึงว่า โอ้โหคู่ของเราสามารถเป็นแฟนกันยืดเยื้อจนถึงทุกวันนี้เชียวเรอะ โถ...โถ หากคุณเข้าข่ายมีคุณสมบัติต่อไปนี้...ก็น่านล่ะ คือ สุดยอดปรารถนาของแฟนล่ะ เช่น...

1. ยังรักษาหน้าตาให้ดูดีอยู่ได้

ส่วนใครที่หน้าตาไม่เหมือนเดิมเหมือนสมัยตอนเจอกันหนแรก ก็อย่าถึงกะต้องลงทุนไปทำศัลยกรรมโบ๊ะฉ่ำจนเสียเงินเสียทองโดยใช่เหตุนะตัว แค่คุณรู้จักดูแลหน้าตาผิวพรรณให้มีน้ำมีนวล ประเภทยังมีประกายฉายแววว่าน่ามอง ไม่ใช่ปล่อยตัวเองให้เป็นซิ้มที่ไหนก็ม่ายรุ หรือหากเป็นฝ่ายชายก็อย่าให้มีแผลบนใบหน้าเยอะ และรักษาความสะอาดไว้มั่ง ไม่ใช่โอ้โห จะจูจุ๊บกันที แต่รู้สึกทำไม่ลงอ่ะ เพราะอีกฝ่ายหน้ามัน แถมยังสิวเขรอะเพียบ ฮ้า...หยั่งงี้ก็ควรพิจารณา ตัวเองซะนะ

ธรรมชาติของมนุษย์น่ะ เป็นใครก็อยากอยู่ใกล้ สาวงามที่เค้าเลือก หรือหนุ่มหล่อที่หล่อนมองไม่วางตา แหงๆซิ! ดังนั้น อย่าปล่อยเนื้อปล่อยตัวหลังจากมีแฟนแล้วเด็ดขาด ขืนคุณไม่รักษาหน้าตาที่คุณเคยมีสมัยอายุ 18 เอาไว้ให้ได้ละก็...อิอิ ตั้งอายุไว้ ที่ 18 ไปงั้นแหละ บางทีหน้าตาสมัย 18 อาจไม่ดูดีและดึงดูดเท่า 30 หรือ 40 ปียังแจ๋วก็ได้ อ่ะฮ้านี่อุตส่าห์ให้กำลังใจกันเต็มที่แล้วนะ

2. จิตใจงดงาม ไม่มองโลกและมองคนรักในแง่ร้าย หรืออยู่ๆกันไป ดันหวาดระแวงกันซะเอง โอ้ยโหยวแล้วจะไปกันรอดรึนั่น

ในเมื่อพวกคุณมีกันและกันเพียง 2 คนหยั่งงี้ จึงควรอุ้มชูทะนุถนอมจิตใจกันไว้ไม่ดีกว่าเรอะ แต่ ไม่รู้เป็นบ้าอะไร คู่รักส่วนใหญ่ไม่งั้นสิ มีตัวอย่างให้เห็นไม่รู้กี่คู่ ต่อกี่คู่ ที่พออยู่กันไปสักพักชักมีปัญหากันแฮะ เดี๋ยวก็เอาล่ะ บางคนมองเห็นแฟนตัวเองเหลาเหย่กว่าคนอื่น จึงไปเหล่และไปจีบคนอื่นแล้วทอด ทิ้งคนเก่ามีงี้เยอะ เฮ่อ... ช่างเสียเวลารักซะจริงๆ! ถ้าเป็นเดี้ยน ขอหาแฟนที่มีจิตใจดีบวกมองคนรักในแง่ดีไว้ก่อนดีกว่า เพราะสิ่งนี้น่ะมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ “แฟนของเรา” เหลวไหลหันไปก้อร่อก้อติกมีกิ๊กได้นะ เอาคิดดู หากแฟนเป็นคนร่าเริงสดใส, ใจดี, มองโลกในแง่ บวกเสมอหยั่งงี้ คนที่เป็นคู่รักด้วย ก็ไม่รู้จะไปมองหาคนอื่นมาเสียบแทนเป็นกิ๊กด้วยทำไม เอ้า...ถ้ากิ๊กวัยเอ๊าะกว่าก็จริง แต่ใจคออีเดียด หรือเอาแต่ใจตัวเอง และคิดร้ายกะผู้อื่น...ขืนอยู่ด้วยแล้วจะสบายใจได้ไง!

3. ให้ความเคารพนับถือคนรัก ไม่ใช่ดูถูกดูแคลนว่าเค้าด้อยกว่า (ถึงจะมีอะไรที่ด้อยกว่าจริงๆก็เหอะวะ)
หนุ่มสาวล้วนต่างอยากมีแฟน และคู่ครองที่ให้เกียรติพวกเค้ารู้ซะเหอะ แล้วจะดียิ่งขึ้นไปอีก หากแฟนแสดงความนับถือในความคิดเห็น ตลอดจนทัศนคติที่คนรักมีต่อสิ่งต่างๆ มากกว่าคนที่คอย “ขัดคอ” หรือ “แสดงความขัดแย้ง” ทุกครั้งที่แฟนเสนอความคิดเห็นอะไรออกมา อ้าว ถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถามแฟนของคุณดูสิว่า เค้าอยากให้คุณยอมรับในสิ่งเหล่านี้จริงป่าว?

ดังนั้น แฟนที่ดีจึงอย่าไป “ขวางทางปืน” ระหว่างที่คู่เลิฟของคุณกำลังแสดงความหวัง หรือเล่าความฝันให้ฟังเชียวนา ถ้าเค้าหวังหรือฝันอะไรไว้ก็คล้อยตามไปก่อน ส่วนถ้าอยากวิพากษ์ หรือแสดงความเห็นตรงกันข้ามกะเค้าค่อยไปทำทีหลัง ยังไงเค้าก็แฟนคุณนะรู้มะ

4. ฉลาดพอตัวและมั่นใจในตัวเองพอสังเขป

เมื่อก่อน ถ้าไปถามหาสเปกของ “แฟนในอุดมคติ” หรือ “แฟนในฝัน” ของใครๆ อาจได้ยินมั่งแหละว่า ขอสาวสวยหมวยอึ๋ม หรือ หล่อล่ำตัวโตกล้ามเป็นมัดๆ (เลือกแบบเนี้ยะ กะเอามาเป็นแฟน หรือเก็บเค้าไว้ในตู้โชว์ยะ)

เดี๋ยวนี้เรอะ หากไปสำรวจกันใหม่ ถ้าผู้ตอบเป็นเด็กๆหรือวัยรุ่น ก็ยังคงเน้นไปที่หน้าตาดีไว้ก่อนอีกแหละ แต่ถ้าให้ผู้ใหญ่ตอบมั่ง “เจ้าความหน้าตาดี” ประเภทสวยหรือหล่อก็ยังไม่หายไปไหนนะ กระนั้น สิ่งที่เพิ่มมานี่สิ มักอยากมีแฟนฉลาดและมั่นใจในตัวเองไว้ก่อนสิจ๊ะ เพราะเวลาคนรักอยากสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน, สอบถามความเห็น, รวมทั้งอยากได้ข้อมูลความรู้ คนส่วนใหญ่จึงอยากให้แฟนตัวเองมีอะไรอยู่ในสมองมั่งฮี่ ไม่ใช่มีแฟนทั้งทีก็ดัน “สมองกลวง”...กลุ้มโว้ย

5. ให้ความรักและแสดงความรักออกมาให้เห็น ไม่ใช่รักอยู่แต่ในใจ หรือแอบรักอยู่นั่น จะซ่อนเร้นรักไว้ทำไมฮ้า แต่บางคนก็อย่างว่า ปากบอกรัก แต่ทำไมชอบลืมตัวเห็นแฟนเป็นกระสอบทรายตอนเมาก็ไม่รู้ดิ่ ความรักน่ะต้องการความอ่อนโยนและโรแมนติกมากกว่าฮ้า.

Sunday, February 22, 2009

อยู่คนเดียวได้ไหม ถ้าไม่มีแฟน

เรื่องความชอบ, ความรักและถวิลหาย่อมเกิดขึ้นได้กะทุกคน อู๊ยใครไม่เคยมีสิ่งเหล่านี้เข้ามาเยือนในหัวใจมั่งเหรอ...ถามจริง? แต่ บางรายยกมือยอมรับว่า แอบรักเค้าน่ะ มันส์กว่านะเพ่...จ๊ะๆ สาธุใครจะแอบมีใจให้ใคร ก็ขอให้เลิฟอย่างมีเหตุผลหน่อยละกัน

สัปดาห์นี้ ถึงไงก็ยังไม่อยากเขียนถึง “รักซ่อนไว้ในอก” หรอกนะ เพราะอยากตั้งคำถามมากกว่า ว่าท่านผู้อ่านจะอยู่ได้ไหมถ้าไม่มีแฟน? ต่างหากล้า ซึ่งหลังจากไปเซอร์เวย์ (สอบถาม) หนุ่มสาวบางคนก็ได้คำตอบน่าสนใจไปต่างๆนานา แต่บางรายไม่รู้ตอบหรือบ่นแฮะ เช่น...

- น้องแนนบอกว่า ได้สิ ถ้าไม่มีแฟนทำไมจะอยู่ไม่ได้ เพราะหนูมีเพื่อนไง ก็เลยทำให้ไม่รู้สึกว่า ถ้าขาดแฟนแล้วจะอยู่ไม่ได้....น่าน ต้องหยั่งงั้นซี

- ส่วนน้องอุ๊เสริมว่า ไม่มีแฟนตอนนี้ก็ไม่ เป็นไร เพราะนอกจากจะมีเพื่อนแล้ว หนูยังมีคนรอบข้างคนอื่นๆ เช่น ครอบครัวและพี่น้องให้กะหนุงกะหนิงนี่นา แต่ขออธิบายให้กระจ่างแจ่มก่อนว่า หนูน่ะยังอยู่ในช่วงอายุแค่ 20 อัพ หรือ 20 ปีขึ้นไป ก็เลยไม่ห่วงเรื่องฟงแฟนว่าต้องมีหรือไม่มีในตอนนี้ คือ มีก็ซู่ซ่า แต่ถ้าไม่มีก็ไม่แคร์อะไรมาก ทว่าหากอายุ 30 อัพ หรือ 40 อัพดิ่ ช่วงโน้นน่ะคงเริ่มคิดเหมือนกันแหละว่าควรมีแฟนสักที (แล้วจะไปจีบเค้าหรือรอให้เค้ามาจีบล่ะจ๊ะ อิอิ) “แต่ ตอนนี้ยังอะโลฮ้า แฮปปี้กับชีวิตดี โดยไม่ต้องมีแฟนก็ได้”...แหม ช่างหลักแหลมซะจริงๆแม่คุณ

- ด้านน้องนุ่น ขานี้กลับชี้แจงว่า คิดว่าไม่ได้อ่ะ โถ หากอยู่โดยไม่มีแฟนคงเหงาน่าดู แต่อย่าเพิ่งคิดว่านุ่นเป็นคนติดแฟนมากซะจนขาดแฟนไม่ได้นะหากไม่มีแฟนก็ต้องอยู่คนเดียวให้ได้ อ่ะ เพราะโลกใบนี้ยังมีอะไรๆให้เราชื่นชมและค้นหาอีกนี่นา....นี่ก็มีทัศนะเป็นแนวทางของตัวเองดี ฟังเข้าท่าน่าสนใจ

ถามฝ่ายชายมั่ง หนุ่มลักกี้บอกว่า อยู่ได้ฮะ “ผมเพิ่งอายุไม่เท่าไหร่ แล้วจะรีบไปผูกสมัครรักใครแบบจริงจังเพียงคนเดียวทำไม่ได้ฮะ” เออเอากะมันสิ

ส่วนอีกหนุ่ม คือเค้าชื่อหนุ่ม (โหตอนแก่ก็ให้เรียกหนุ่มเนี่ยนะ) บอกว่า ไม่ได้หรอก ไม่มีทางอยู่ได้โดยไม่มีแฟน เพราะแฟนผมน่ะช่วยทำงานบ้าน, ช่วยเก็บของที่ผมทำรกบ้าน, ช่วยซักผ้าโอ๊ยสารพัด....เอ๊ะ ไอ้นี่อยากอยู่กะแฟนเพราะเห็นคุณค่าของแฟนในทางที่ดี หรืออยากอยู่ กะแฟนเพราะมีแฟนเสมือนมี “คนคอยรับใช้” กันแน่วะ เพราะแต่ละอย่างที่แฟนทำให้นี่ ฟังแล้วคล้ายหน้าที่ของคนใช้เนอะ เอ๊ะยังไงกันแน่เนี่ย

เอ้าทัศนะของอีกคนละกัน เจ้านี้บอกไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะอยู่ด้วยตัวเองได้หรือไม่ หากไม่มีแฟนให้พะเน้าพะนอ เพราะอยากเป็น “จำเลยรัก” และมีแฟนมากฝ่า ยอมรับก็ดีและ

ส่วนท่านใดส่ายหน้าไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองอยู่ได้ หรือไม่ได้โดยไม่มีแฟน? ก็ลองตอบคำถามง่ายๆว่า ใช่หรือไม่ใช่ต่อไปนี้ดิ่....

1. คุณมักไปไหนมาไหนเองโดยไม่จำเป็นต้องมีใครไปด้วยใช่ไหม?

2. คืนก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์ คุณมักมีกิจกรรมรับชวนไปเมาท์กะเพื่อนๆ หรือนัดแนะกับพี่ๆน้องๆ ว่าจะไปไหนกัน โดยที่คุณอาจคิดถึงแฟน (ในกรณีที่มีแฟนแล้ว) จิ๊ดนึง คือนิดนึง แต่ในเมื่อเค้าไม่ว่าง นี่หว่า คุณก็จะไม่คะยั้นคะยอให้เค้ามาคลุกอยู่ด้วย เด็ดขาด งั้นเปล่า?

3. หากคุณยังไม่มีแฟน แต่มีคนมาสนใจชนิดอยากจีบเป็นแฟนเลยล่ะ ทว่าคุณกลับเอ้อระเหย คิดว่าเรื่องแบบนี้รอก่อนได้ เพราะเชื่อว่ายังมีคนอื่นๆอีกในโลกอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ที่คุณยังไม่รู้จัก และอยากเปิดโอกาสให้ตัวเอง มีช้อยส์ให้เลือกเยอะกว่านี้ใช่มะ?

4. หากคุณไม่มีแฟนแต่อยากมี คุณจึงเอา แต่หว่านเสน่ห์ใครๆไปทั่ว เพราะอยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนเหลือเกิน...เฮ่อ ส่วนวิธีการให้ได้แฟนมา คุณยังใช้เล่ห์เพทุบาย...เอ๊ย เสน่ห์ทั้งหมดที่ (คาดว่า) มี เอ้า...ก็ชั้นไม่อยากโสดสลดแล้วนี่ยะ ยังงี้ใช่เหรอ?

5. หากคุณผ่านประสบการณ์มีแฟนแล้ว แต่เค้าก็ทำให้คุณใจสั่น, วาบหวิว และใจคอปั่นป่วนได้แค่ช่วงแรกที่หลงกันเท่านั้น แต่หลังจากนั้นดิ่ เค้ากลับห่างเหิน แถมคุณยังจับได้ไล่ทันว่า เค้าเจ้าชู้อย่างเหลือเชื่อ คุณจึงขอเบรกเรื่องรัก และอยู่เงียบๆคนเดียวตามลำพังก็ได้ใช่มะ?

6. เวลาสุดโปรดของคุณคือการได้อยู่คนเดียว โดยไม่มีแฟนมากวนใจ และรบกวนเวลาที่คุณกะว่าจะใช้เป็นเวลาของงานอดิเรกที่ชื่นชอบ เช่น อยากไปเล่นคาราเต้, ปลูกต้นไม้ หรือนอนพักผ่อนให้สาแก่ใจ หลังจากได้หยุดพักจากการเรียนหรือการทำงานอันแสนเหนื่อยใช่ไหมจ๊ะ?

7. คุณตั้งเป้าหมายส่วนตัวเอาไว้แล้วว่า ถ้าชาตินี้มีแฟนไม่เข้าท่า ก็อย่ามีให้ปวดใจซะดีกว่ารึเปล่าล่ะ?

8. เพราะสังคมมีปัญหาเรื่องคู่สมรส ที่มีอัตราการหย่าร้างกันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้คุณรู้สึกขยาด และไม่แน่ใจว่า พอมีแฟนแล้วจะไปกันรอดมากน้อยแค่ไหน จึงรีรอที่จะคบใครใช่มะ?

เอาล่ะ ถามให้น้ำลายไหลแค่นี้พอ คาดว่าแต่ละท่านคงรู้ใจตัวเองเป็นอย่างดีแล้วแหงๆเลยว่า คิดยังไงกับที่ถามนี้ ซึ่งหากคุณตอบว่าใช่ซะเป็นส่วนใหญ่ แสดงว่า คุณสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ จำเป็นต้องมีแฟน ประเภทอยู่ได้เองอย่างซำบาย แต่ถ้าเมื่อไหร่คุณเจอคนที่ทำให้คุณมั่นใจได้ ว่ามีหัวใจตรงกันและปรารถนาจะดูแลกันตลอดไป แล้วจะโสดทำไม มีแฟนซะสิ!

Sunday, February 1, 2009

คนแบบไหน หาแฟนได้ยาก

เพราะมนุษย์เกิดมามีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องรูปร่าง, บุคลิกและพฤติกรรม เช่น สูง, ต่ำ, ดำ, เตี้ย, หน้าตาดี-หน้าตาธรรมดา-หน้าตาไม่เอาไหน หรือรวย-จน, ผมสั้น-ผมยาว-ผมดัด-ผมซอย และอื่นๆอีกจิปาถะ

จึงทำให้บางคนโอดครวญว่า หาแฟนย้ากยาก แต่อีกหลายคนก็หัวเราะเอิ๊กอ๊าก เพราะมีแควนมานับไม่ถ้วน แถมมีความเป็นไปได้ด้วยสิว่า อนาคตพวกที่หาแฟนได้เร็วและง่ายดาย (เอ๊ะหรือแค่หากิ๊กง่าย ไม่ถึงขั้นเป็นแฟนผูกมัดจริงจังกันแน่) ยังมีโอกาสหา “หาคนมาควง” อีกได้เรื่อยๆ บางทีเห็นบางท่านมีแฟนซ้อนแฟน มีกิ๊กดับเบิลกิ๊ก แล้วเรื่องไรจะเขียนถึงคนหาแฟนง่ายละยะ ต้องรำพึงรำพันถึงผู้ที่หาแฟนได้ยากเย็นแสนเข็ญเพื่อให้กำลังใจกันมากกว่า...นี่สิถึงจะแซบอีหลี ว่าแล้ว มามะมาสังเกตดูบุคลิกลักษณะของคนที่หาใครมาเป็นแฟนยากกันเถอะ ซึ่งในที่นี้ “การหาแฟนยาก” ไม่ใช่ว่าเขาหรือเธอเป็นคนเลือกมากนะ (ตัดโจทย์ข้อนี้ไปได้เลย) แต่ไม่มีใครเลือกพวกเขามาเป็นแฟนมากฟ่า หรือไม่งั้นก็มีคนมาสนใจน้อย ยกตัวอย่าง แต่น แต๊น ให้ฟังก็ได้เช่น...

1. ผู้มีสิวเขรอะเต็มหน้า, หน้าตาไม่เกลี้ยงเกลา และมีปัญหาผิวพรรณ
ตรงข้ามกะคนหน้าใส หรือหน้าอ่อนกว่าวัยมักหาแฟนหรือหาคนมารักได้ง่ายกว่าเยอะ แต่ว่ากันตามตรง การมีสิวไม่ว่าเป็นหนุ่มหรือสาว ก็มีกันได้ทั้งนั้น แต่หากท่านใดมีฮอร์โมนพลุ่งพล่านเยอะก็อาจมีสิวมากกว่าคนอื่นๆได้ ดังนั้น การมีสิวจึง เป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งหากคุณๆทั้งหลายรักษาความสะอาดใบหน้าเป็นอย่างดีแล้วไซร้ โอกาสที่สิวจะเห่อย่อมมีน้อยกว่าคนสกปรกอ่ะนะ

คนมีสิวเยอะไม่ว่าจะมีทั่วใบหน้าหรือมีสิวเป็นหย่อมๆ คิดดูดิ่ว่าไม่ชวนมองเท่าไหร่ใช่ปะ แถมคนมีสิวยังอาจมีรอยแผลแห่งสิวที่บางคนเผลอไปแกะ, ไปเกา หรือไปใช้เครื่องสำอางลดสิวแต่เกิดอักเสบขึ้นมา ก็ น่าเห็นใจที่จะหาแฟนยากกว่าพวกหน้าใสปิšง และไร้ความมัวหมองแห่งหัวสิว เรื่องนี้จึงไม่ใช่ปัญหาเล็กๆ มิน่า บรรดาคลินิกรักษาผิวพรรณถึงได้มีลูกค้ายั้วเยี้ย เพราะตะละคนอยากหล่ออยากสวยอยากงามจึงตระหนักถึงความเกลี้ยงเกลาบนใบหน้านี่เอง เมื่อสถานประกอบการกำจัดสิวรู้ว่า คนเรามักให้น้ำหนักไปที่ไม่อยากมีสิว ก็อย่าคิดค่ารักษาแพงและอย่าโหดกะลูกค้านัก...ทางที่ดีควรเห็นใจกันถึงจะถูก

เออแล้ว ที่จริงการมีสิวเยอะอาจหาแฟนได้ช้าก็จริง แต่ใช่ว่าจะหาไม่ได้เลย เพราะ บางทีคนมีสิวแล้วใจดีแถมซื่อสัตย์อาจมีปริมาณมากกว่าคนหน้าเนียนก็ได้ ที่บอกนี่เพราะไม่อยากให้มองกันเฉพาะรูปลักษณ์ภายนอก แต่อยากให้มอง “ที่ใจ” น่ะชัวร์ป้าด

2. อ้วนท้วนหรือมีหุ่นอ้วนกลมแถมอารมณ์ ไม่ดี แล้วใครอยากชวนเป็นแฟนฟะ

เพราะถ้า “อ้วนกลมแล้วยังอารมณ์ดีด้วย” คงหาแฟนได้ไม่ยาก แต่เป็นที่น่าเจ็บใจจริงจริ๊ง สำหรับผู้มีน้ำหนักเกินพิกัดจนเข้าข่ายอ้วนเป็นหมู สามชั้น มักหา “คนมาร่วมฝัน” ด้วยไม่ง่ายเหมือนคนที่มีหุ่นพอเหมาะกำลังดี ทว่า หากมีหุ่นตุ้ยนุ้ยแบบกำลังดี ก็ใช่ว่าจะน่าเกลียดอะไรนักหนา ส่วนผู้ที่ผอมมาก และผอมจนเป็นไม้แผ่นกระดานก็ใช่ว่าจะมีใครมาสนเท่าไหร่ เหมือนกันแหละ ดังนั้น เอาเป็นว่า ขอให้รูปร่างจูงมือกันไปไหนมาไหนแล้วรู้สึกว่า คู่ของเราน่ารักดี และไม่อ้วนไม่ผอมเกินไป ก็นั่นแหละถือเป็นหุ่นเหมาะสม ชวนแก่การที่ใครๆเล็งไว้ว่าจะจีบมาเป็นแฟนหละจ้า

3. ขี้เกียจก็ไม่เห็นมีใครหมายปองให้มาเป็นคู่หมั้นคู่หมายเลยอ่ะ

อู้ย คนที่มีพฤติกรรมหยั่งงี้ยังหามนุษย์ดีๆ ที่ไหนมาเลิฟด้วยจ๊ะ ยิ่งสมัยนี้ภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีเท่าไหร่อยู่ด้วย ดังนั้น คนที่กำลังมองหาแฟนส่วนมากจึงอยากเลือก และอยากเจอเนื้อคู่ที่เป็นคนขยันขันแข็ง, รู้จักทำมาหากินทำงานทำการเพื่อช่วยกันสร้างครอบครัวมากฝ่า ยกเว้นพวกที่ไม่ได้อยากมีแฟนเป็นตัวเป็นตนจริง แค่อยากมีกิ๊กเอาไว้ควงเล่นนั่นก็อีกเรื่อง เพราะคนกลุ่มนี้คงไม่สนหรอกว่า กิ๊ก (ซึ่งถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่อายุสั้น ไม่ใช่แฟนที่จะคบกันอย่างยั่งยืน) จะฉายแววขี้เกียจหรือเกียจคร้านขนาดไหน มิน่าอาเสี่ยถึงได้ชอบคน “ขยันทำงาน” ตอนชวนเข้าม่านรูดไง...ว้าย!นึกแล้วเชียว

4. มีกลิ่นตัวหึ่ง

ประเภทแม้รู้ว่า ตัวเองมีกลิ่นตัวโชยแรงขนาดไหน พี่แกก็ไม่รู้ตัว เพราะคิดไม่ถึงว่า คนเราจะมีกลิ่นตัวได้ แถมยังไม่ชอบอาบน้ำอาบท่าซะด้วยแบบนี้ก็ชวนใครมาชอบด้วยยาก ยิ่งบ้านเรามีสภาพอากาศร้อนมากกว่าอากาศเย็น ดังนั้น พอทำกิจวัตรประจำวันที เหงื่อก็ไหลโจ้กๆแล้ว จึงมีกลิ่นตัวกันน่ะซี หากใครยิ่งทำงานกลางแจ้ง ไม่ได้ทำงานอบผิวอยู่ในห้องแอร์ด้วยแล้ว ก็ยิ่งมีสิทธิ์เหงื่อแตกมากกว่าใครๆ นี่ถ้ากลิ่นตัวแรงแล้วไม่สำนึกจึงอย่าหวังเลยว่า จะหาแฟนได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก งั้นหัดทำตัวสะอาดสะอ้านเข้าไว้นะจ๊ะ จะได้มีแฟนเร็วๆ พอมี “ใครสักคน” แล้วจะแฮปปี้หายเหงารู้แล้วก็คว้าโรลออนดับกลิ่นกายมาใช้เร้ว...แหมพูดเล่นน่า เพราะบางคนต่อให้ใช้โรลออนอะไรมาระงับกลิ่นก็ไม่อยู่555

5. เตี้ยเกินไป หรือสูงเกินเหตุ ก็ไม่ยักมีใครอยากชวนมา “ดูใจกัน” แฮะ

คิดดูนะ ถ้ามนุษย์ 2 คน มีสัดส่วนของความสูงแตกต่างกันมากๆ แล้วจะอยู่ด้วยกันรอดปลอดภัยไร้กังวลได้ไงยังไม่เก็ตเลยจ๊ะ หนำซ้ำผู้ที่มักชีช้ำกะหล่ำปลีน่ะ ส่วนใหญ่เป็นคนเตี้ยมากกว่าคนสูงซะด้วยสิ พวกสูงโย่งน่ะยังหาแฟนได้ง่ายกว่าคนเตี้ยม่อต้อนะว่ามะ

เออ แต่มนุษย์นี่ก็แปลกนะจ๊ะ เพราะบางคู่มองแล้วไม่เห็นจะควรคู่กันได้ ทว่าก็ยังส่งซิกและ “รักกันเข้าแล้ว” ถมเถไป ไม่งั้นจะมีคำถามที่ว่า ทำไมคนสวยถึงมีแฟนไม่หล่อ หรือ ทำไมคนหล่อถึงมีแฟนไม่สวย...นั่นแหละ เค้าถึงว่านานาจิตตังไง เอางี้ ขอให้ทุกท่านหาแฟนคล่อง และอย่าได้ติดขัดเมื่อคิดจะรัก...ดีกว่าเนอะ.
คลิก Older Posts เพื่ออ่านหน้าต่อไป