ข้อมูลและรูปภาพเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

Sunday, May 31, 2009

หากมีคนมารุมรัก แล้วจะทำยังไงดี

ดู บางคนโชคดีในเรื่องความรักเหลือเกิน เพราะอยู่ดีๆก็มีคนมาชอบทีเดียวหลายคนเชียวนะ ทำให้บางครั้งอาจเลือกไม่ถูกเหมือนกันแหละว่าจะคว้าใครมาเป็นแฟนตัวจริงเสียงจริงดีฟะ เพราะเวลามีคนมาจีบก็แหม....เข้าแถวกันมาพรึ่บพรั่บหยั่งงี้ ทำให้เขินตายชักน่ะสิจ๊ะ
แต่พูดก็พูดเหอะ การมีคนมาจีบทีเดียวพร้อมกันหลายคนก็มีข้อดีหลายอย่าง ทำให้คุณได้เลือกคนที่เข้ามาจีบให้ถูกสเปกที่ต้องตาต้องใจได้, ทำให้รู้ว่า คุณยังเป็นที่รักของคนอื่นอยู่นะ ไม่ใช่ หมดเสน่ห์หรือไร้น้ำยาซะจนนึกว่าไม่มีใครสนซะแล้ว แถม คุณไม่ต้องไปตามจีบใครให้ยุ่งยาก ซะด้วย เพราะมีคนเข้ามาหาเอง (เหมือนเพลงที่ว่า หนูเปล่านะ เค้ามาเอง หนูเปล่าชวนนะ เค้ามาเองไงฮ้า) เอ้า...อย่าคิดเชียวว่าการไปจีบคนอื่นน่ะเป็นเรื่องหมูๆ เพราะขอยืนยันฮ่ะว่า ให้คนอื่นเค้ามาจีบเราน่ะดีแล้ว มันง่ายกว่า "ออกไปแสวงหา" และตามจีบคนอื่นให้มารักมาหลงนะซีกระนั้น ขอให้มี 1 ในจำนวน "คนที่เข้ามาจีบ" ทำให้คุณถูกชะตาด้วยจริงๆสักคนเหอะว่ะ จะได้โป๊ะเชะมีแฟนกะเค้าสักที ไม่ใช่ว่า ในบรรดาผู้ที่เข้ามา "แจกขนมจีบ" ปรากฏว่า ไม่มีใครคนไหนเลยที่คุณชอบหรือนึกรักก็แย่ดิ่ แสดงว่าถึงมีคนมาจีบก็ทำให้คุณเสียเวลาเปล่าๆ เพราะคุณจะไม่เลือกพวกที่เข้ามาจีบ เนื่องจากไม่ตรงกะความสนใจของคุณเลยสักคนไงเล่างั้นโอมเพี้ยง ขอให้พวกที่เข้ามากระแซะ ทำให้ใจของคุณสั่นหวั่นไหวสักคนเหอะนะ!ทีนี้ก็เกิดความสงสัยต่อไปอีกว่า ถ้าเผื่อใครถูกคนมะรุมมะตุ้มรุมรักมากกว่าคนนึงขึ้นไป ประมาณว่าอาจมี 2–3 คนมาจีบคุณพร้อมกัน หยั่งงี้คุณจะทำไงดีน้อ?1. ลองคบแล้วดูใจแต่ละคนไปก่อนละกันหากคุณมีเวลาเหลือเฟือ และยังไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตน (เอ๊าไม่แน่ เวลามีคนมาจีบ อาจเป็นช่วงที่คุณมีแฟนแล้ว หรือยังไม่มีแฟนก็ได้ใช่ปะ) ถ้าสมมติว่าคุณยังไม่มีแฟน จะลองคบหาดูใจพวกที่เข้ามากะลิ้มกะเหลี่ยทีละคนไปก่อนก็ได้ เช่น วันจันทร์ก็ไปเดท (นัดเที่ยว) กะคนนึง พอวันพุธก็ไปกะอีกคน ส่วนวันศุกร์ก็เลือกคนที่คุณชอบที่สุดไปด้วยกัน ย่อมทำให้คุณรู้จัก "คนที่มาแจกขนมจีบ" มากขึ้น วิธีนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้แม่นยำขึ้นนะว่าจะเลือกใครเพื่อมาคบกันแบบจริงจังมากขึ้นฮั่นแน่ อยากลองละซี2. ถ้านัดใครไปเที่ยว แต่ไม่อยากไปกันเพียง 2 ต่อ 2 ก็ควรชวนเพื่อนไปด้วยซึ่งดีเหมือนกันนะ ถ้าคุณจะไม่ไปไหนมาไหนกะคนที่เข้ามาจีบเพียง 2 ต่อ 2 เพราะคุณจะไปรู้ได้ไงล่ะว่า แต่ละคนนิสัยเป็นยังไง? ขืนไปกันเพียง 2 คนแล้วถูกเค้ารังแกเอา เดี๋ยวจะเสียความรู้สึก งั้นอย่าเพิ่งเลย ใช้วิธีชวนเพื่อนของคุณไปด้วยดีกว่าน่า การไปกันเป็นฝูง...เอ๊ยเป็นกลุ่ม คุณจะได้ให้เพื่อนช่วยแสดงความเห็นด้วยไงว่า แล้วตกลงคุณจะเลือกใครคนไหน เพื่อคบกันต่อไปหรือคนไหนตัดทิ้งซะ3. เลือกคนที่คุณคิดว่าน่าจะมีอนาคตไปกันได้ด้วยดีมากที่สุดเมื่อถึงเวลาต้องเลือก ก็ตัดสินใจสักทีได้แล้วอย่ามัวยึกยัก ใครที่คิดว่าเหมาะกะคุณที่สุด ก็นั่นแหละใช่เลย แต่ถ้ายังไม่มั่นใจว่าเลือกถูกรึยัง จะรั้งรอไว้ก่อนก็ได้ไม่เป็นไร ทว่าจะรอไปอีกแค่ไหน ควรตระหนักไว้หน่อยละกันว่า ความรักบางทีก็ไม่ควรใช้เวลาเลือกนาน เพราะเดี๋ยวคนที่คุณ "มีใจให้" เกิดหลุดลอยไปไกลเกินเอื้อมแล้วจะมาร้องโอดโอยไม่ได้นะ4. เมื่อได้คนถูกใจแล้วก็อย่าเล่นตัวมากในเมื่อคุณรู้แล้วว่า จะเลือกใคร กรุณาบอกเค้าอย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญด้วยสิว่า ชั้นเลือกคุณเป็นแฟนแล้วนะ ไม่ใช่ปล่อยให้เค้าคิดเองเออเองว่า เอ...คุณรับรักเค้ารึยังหว่า? เพราะคุณไม่อยากบอกเค้าตรงๆ กลัวเดี๋ยวเค้าจะระริกระรี้เกินเหตุ ดังนั้น คุณจึงเป็นฝ่ายเล่นตัวก่อนซะเลย ก็ไม่เก๋นะยะ5. คบแล้วก็อย่าเลิกกันเร็ว ควรมีน้ำอดน้ำทนซึ่งกันและกันให้มากเข้าไว้ถ้าคิดว่า เวลาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำผิด แล้วต้องให้เค้าง้อคุณทุกทีละก็ (เพราะเค้าเป็นฝ่ายติดบ่วงเสน่ห์ของคุณก่อน จึงคิดว่าเค้าต้องเป็นฝ่าย "ยอม" เสมอดิ่) อยากให้คิดใหม่ว่า ใครทำผิดฝ่ายนั้นก็ควร "ง้อ" ต่างหาก ไม่ใช่อะไรๆก็คิดว่าคุณถูกเสมอ หยั่งงี้ท่าทางจะคบไม่ยืดนะ ทางที่ดีเมื่อเป็นแฟนกันแล้วก็อย่างอนหรือมีปากเสียงกันบ่อย อย่าลืมว่าก่อนตัดสินใจเป็นแฟน คุณก็คัดแล้วคัดอีกไม่ใช่เหรอ อะไรที่หยวนๆกันได้ ก็ควรอะลุ้มอล่วยกันซะ แหม กว่าจะรักกันได้มันยากนะตัวเอง แล้วยังจะมาเลิกกันเร็วคงไม่แจ๋วเท่าไหร่อ้อ มีอีกเรื่องที่อยากให้ระมัดระวังไว้หน่อย ได้แก่ ตอนที่เป็นแฟนกันน่ะ อาจมีสิ่งล่อใจให้คุณตกเป็นของเค้าได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งถ้าคุณยังไม่พร้อมที่จะ "เป็นของเค้า" ละก็ โปรดเตือนตัวเองในสถานการณ์เหล่านี้ไว้มั่งละกัน เช่น...*เมื่อคุณน่ารักและสวยเป็นพิเศษกว่าทุกวัน แล้วถ้าวันนั้นความน่าร้ากของคุณ ดันทำให้เค้าเกิดความรู้สึกซู่ซ่าขึ้นมาอย่างฉับพลันทันใดละก็ เค้าย่อมหมายมั่นปั้นมืออยากปล้ำคุณขึ้นมาน่ะสิ ฉะนั้น อย่าทำตัวเซ็กซี่เกินไปนะจ๊ะ ถ้าเค้าหน้ามืดอยาก "ฟัน" คุณขึ้นมาจะได้หลบเลี่ยงได้ทัน*เมื่อบรรยากาศมันพาไป คิดดูเดะ ถ้าเค้าพาคุณไปทานอาหารค่ำใต้แสงเทียน แล้วถ้าเผื่อทั้งคุณและเค้าเกิดอารมณ์อยากนัวเนียกันขึ้นมา ก็อย่าลืมเตือนสติตัวเองให้อยู่กะร่องกะรอยหน่อย*เมื่อต่างฝ่ายต่างรู้สึกเปลี่ยวใจ โอ๊ย...อาการเปลี่ยวเหงาชวนโหยหาให้ทั้งคู่อยู่ในอารมณ์รัญจวนดีนักแหละ ถ้าคุณยังไม่อยากให้เค้ารวบรัดละก็ อย่าปล่อยกายให้เค้ารุกล้ำพื้นที่สุดสงวนเข้ามาเชียว ถ้าคิดว่ายังไม่ถึงเวลาก็ควรอดใจไว้ก่อน เมื่อถึงช่วงเหมาะสมค่อยว่ากัน ส่วนเค้าก็ควรรักษาน้ำใจของ คุณด้วย ไม่ใช่กลัดมันอย่างเดียวก็ไม่ถูกนะ

Sunday, May 24, 2009

แฟนเก่าของคุณเป็นคนอย่างไร ?

ขึ้นชื่อว่า "แฟนเก่า" ไม่ว่าใครคงเคยมีกันมาแล้วใช่มะ โถ...ป่านฉะนี้ยังมีผู้ใดอีกรึที่จะปฏิเสธว่าไม่เคยมีอดีตรักซึ่งเคยเป็นคนที่คุณห่วงหาอาทรขนาดยามนอนไม่ได้กินและยามกินไม่ได้นอนเพราะเอาแต่หวง...เอ๊ย เป็นห่วงแต่เค้าน่ะ มีด้วยเรอะ แหม...สงสัยจริงเชียวซึ่งการเป็นแฟนเก่าของกันและกันมีหลายแบบซะด้วยสิ ไม่ว่าจะเลิกทั้งที่ยังเลิฟกัน แต่มีอุปสรรคขัดขวางบางอย่างจนทำให้ต้องแยกทาง ทั้งที่ใจไม่ อยากเลิกก็มี ทว่า ตอนนั้นทั้งคู่ดัน "ไปด้วยกันไม่ได้" นี่หว่า ส่วนคู่ที่เลิกเพราะผิดใจกันอย่างรุนแรง แล้วไม่อยากติดต่อกันอีกเลยก็มีให้เยอะแยะว่าตามตรง ไม่ค่อยมีใครอยากได้ชื่อว่าเป็นแฟนเก่านักหรอก ไม่ใช่ว่าคำนี้เป็นคำไม่ดีหรือมีแต่จะสร้างลางร้ายให้แก่ผู้ที่เป็นแฟนเก่าหรอกนะ เพียงแต่ใครๆก็อยากได้ชื่อว่าเป็น "แฟน" เฉยๆ หรือเป็น "แฟนใหม่" มากกว่า เพราะให้ความรู้สึกดีกว่ากันเยอะ แล้วใครยังอยากเป็น "แฟนเก่า" ฟะที่เกริ่นมา เพราะอยากฝอยถึง "แฟนเก่ายอดแย่" กับ "แฟนเก่ายอดเยี่ยม" ไงจ๊ะ เนื่องจากเห็นบางท่านแสนโชคดีที่ยังมีแฟนเก่าคอยวนเวียนให้กำลังใจอยู่ใกล้ๆ ตรงข้ามกะบางคนมีแฟนเก่าประสาอะไรไม่รุ ชอบคอยมารบกวนและตามรังควานจนไม่อยากนับให้มันเป็นแฟนเก่าด้วยซ้ำ ส่วนแฟนเก่าที่ต่างคนต่างอยู่ก็ยังดีกว่าเป็นแฟนเก่ายอดแย่ละว้างั้นมาดู ตัวอย่างของแฟนเก่ายอดเยี่ยมกันก่อนดีกว่า ว่าเค้าเป็นกันอย่างไร?1. ยังเป็นเพื่อนกันได้ แม้เดี๋ยวนี้จะไม่ใช่ แฟนกันแล้วก็ตามแฟนเก่าทำนองนี้ ทำให้คุณคิดไม่ออกแล้วล่ะว่า เราเลิกกันด้วยเหตุอันใด เพราะยามที่คุณไม่มีใครเป็นเพื่อน ก็มีเค้านี่แหละทำหน้าที่เป็นเพื่อนให้ได้เสมอ แบบหากคุณอยากไปช็อปปิ้งที่ตลาดนัดกลางแจ้ง ทว่า เพื่อนแต่ละคนของคุณกลับห่วงสวยไปซะหมด แต่แทนที่คุณจะสิ้นหวังไปเลย ทันใดนั้น ก็คิดขึ้นมาได้ว่ายังมีแฟนเก่าที่ตอนนี้กลายเป็นเพื่อนซี้ไปแล้วนี่แหละที่สามารถชวนไปไหนก็ไปด้วยได้ แม้เค้าจะมีข้อแม้อยู่บ้างตรงที่ขอให้วันนั้นไม่ติดธุระสำคัญอะไร เห็นมะคุณก็มีคนไปด้วยแล้ว2. ห่วงใยคุณยามเจ็บไข้ได้ป่วยถ้าเมื่อไหร่เค้ารู้ว่าคุณไม่สบาย เค้าจะหาหยูกยามาให้ หรืออย่างน้อยจะคอยกระตุ้นให้คุณไปหาหมอให้ได้ เพราะไม่อยากปล่อยให้คุณเดาวิธีรักษาเอาเอง ดีไม่ดีหากรู้ว่าคุณกำลังป่วยหนัก เค้าอาจเป็นคนแรกๆเลยด้วยซ้ำที่พาคุณไปหาหมอ และอยู่เป็นเพื่อนแม้จะรู้ทั้งรู้ว่าเป็นแฟนเก่าแล้วก็ตาม แต่นึกออกมะ ว่าเค้ายังเห็นแก่ความรัก ที่เคยมีต่อกัน จึงยังห่วงหาอาทรคุณอยู่นั่น3. ยังเคารพพ่อแม่ของคุณ ไม่ได้เห็นว่าเป็นคนอื่นคนไกลส่วนสมาชิกพี่น้องในครอบครัวของคุณก็รู้จักเค้าและยังติดต่อไปมาหาสู่กันอยู่ ถึงจะไม่สนิทเหมือนแต่ก่อน กระนั้น พวกเราก็ไม่ได้โกรธอะไรกันนี่นา แล้วทำไมจะคุยกันไม่ได้ล่ะ4. เค้าอาจเฮิร์ท (ปวดใจ) ถ้ารู้ว่าคุณมีแฟนใหม่ แต่ทำไงได้ในเมื่อเราไม่ได้เป็นแฟนกันแล้วนี่ ก็ไม่รู้จะขัดขวางคุณไปทำไม เพราะสักวันเค้าต้องมีแฟนใหม่เหมือนกันอ้อ ถ้าอ่านแล้วคิดไม่ถึงว่า แฟนเก่าของใครจะดีได้ถึงปานนี้ละก็ ขอยืนยันว่ามีจริงละกันจ้ะทีนี้มาถึง แฟนเก่ายอดแย่ มั่ง ชื่อก็บอกแล้วว่า ต้องไม่ใช่แฟนเก่าที่ทำให้ "คนเคยรัก" แฮปปี้แน่นอน แล้วอะไรล่ะที่เค้าทำให้คุณรู้สึกไม่ดีน่ะ ก็มีคุณสมบัติบ้าบอราวๆนี้ไงยะ...1. ถ้าวันไหนเครียดและหาที่ลงไม่ได้ เค้าจะโทร.มาต่อว่าคุณเฉยเลยทั้งๆที่ตอนคุณรับโทรศัพท์ของเค้า ใจยังมีความหวังอยู่นิดนึงว่า เค้าคงมีเยื่อใยจึงอยากโทร. มาทักทายและสอบถามสารพัดสุขดิบจากคุณที่เคยเป็นอดีตของเค้าล่ะมั้ง แต่ที่ไหนได้ พี่แกดันหัวเสียมาจากไหนไม่รู้ คุณจึงโดนเค้าต่อว่าต่อขานซะยกใหญ่ คล้ายหยั่งกะว่า แม้ "รักจบไปแล้วแต่คนไม่จบ" อ่ะ มีอะไรปะ เนียะแสดงว่า เห็นแฟนเก่าเป็นกระโถนหรือถังขยะนะเซ่ ถ้าเค้าขืนเป็นงี้ละก็ คุณอย่าหลวมตัวรับโทรศัพท์ จากเค้าอีกเชียว อะไรวะ คนอย่างนี้ก็มีด้วย2. ปล่อยข่าวว่าเค้าเป็นฝ่ายเลิกกับคุณ ไม่ใช่เพราะคุณขอเลิกกะเค้าแสดงว่าเค้ากลัวเสียหน้าดิ่ หากมีใครรู้ว่าเค้าโดนคุณทิ้ง ทั้งๆที่ใครเลิกกะใครก่อนก็ไม่เห็นต้องเก็บไปคิดมากอีกแล้ว ปล่อยให้เรื่องนี้ทั้งคู่รู้กันแค่สองคนไม่ดีกว่าเรอะ ขืนเอาเรื่องนี้ไปพูดก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น เว้นแต่เค้าอยากทำให้คุณ "เสียเซลฟ์ (ขาดความมั่นใจในตัวเอง)" และพยายามทำให้คนอื่นมองว่าคุณเป็นนางมารร้าย ที่ใครก็ไม่ควรเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแหงเลย อู้หู แผนสูงนะยะ3. เอาเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัวของคุณไปโพน-ทะนาโดยเฉพาะเรื่องอะไรที่สามารถทำให้คุณอับอายได้ เช่น คุณชอบใส่กางเกงในสีอะไร? หรือคุณชอบให้ชาวบ้านชมว่าเซ็กซี่ทั้งที่ทรวดทรงไม่เป็นใจให้ เป็นงั้นซะหน่อย แต่เค้าจะเที่ยวนำเรื่องเหล่านี้ไปพูดให้คุณขายหน้าซะอย่าง แสบไหมล่ะ สงสัยตอนก่อนเลิกคงผิดใจและมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงสิท่า เค้าถึงยังตั้งหน้าตั้งตาราวีคุณไม่เลิกอย่างงี้4. ชอบยั่วให้โมโหและเจ็บใจ ถ้าเผื่อบังเอิญเดินสวนกัน ขณะคุณควงแฟนใหม่มาด้วย เค้าก็จะยั่วให้คุณโมโหด้วยคำพูดที่ชวนหงุดหงิดและอาจทำให้คั่งแค้นไปหลายวันต่อหน้าแฟนใหม่ของคุณ อย่างเช่น "โอ้โห วันนี้ผมโชคดีจัง ที่เจอสาวเร่าร้อนคนเก่งของผม ถ้าแฟนใหม่ของคุณไร้น้ำยาในการให้ความสุข (บนเตียง) กะคุณละก็ ผมยังยินดีช่วยให้สุขสมอารมณ์หมายนะคร้าบ" ปากพล่อยจริงๆเลยไอ้แฟนเก่าหยั่งงี้แหม...มันน่ากระทืบ เอ๊ย น่าหลีกหนีถอยห่างไปคนละโยชน์ว่ามะ

Sunday, May 17, 2009

สัญญาณเตือนภัยว่าแฟนมีกิ๊ก

ใช่มะ ว่า "การนอกใจ" เป็นปัญหาสุดฮอตฮิตของคู่เลิฟ ที่ลองเอาไปถาม "คนมีแฟน" เมื่อไหร่ละก็ ส่วนใหญ่ไม่มีใครอยากให้แฟนตัวเองนอกใจไปมีกิ๊กมีก๊อกทั้งนั้นแหละว้า เพราะขืนรู้ขึ้นมาสิว่า แฟนปันใจไปให้คนอื่นคนไกล (หรือที่จริงใกล้ตัวเค้า) ละก็ นอกจากอีกฝ่ายจะเจ็บกระดองใจจนสุดเฮิร์ตและขาดความมั่นใจชนิดเกือบกู่ไม่กลับแล้ว ดีไม่ดีไอ้เรานี่แหละกลับต้องมานั่งใคร่ครวญเหมือนคนฟุ้งซ่าน ว่าตัวเองไม่ดีตรงไหนฟะ เค้าถึงใจจืดใจดำไปมีคนอื่นได้ลงคอ แถมยังอยากตีตัวออกห่างแฟน (ตัวจริง) เพื่อไปอี๋อ๋อออเซาะกะคนอื่นเป็นงั้นไป โอ๊ย...คนเจ้าชู้หลายใจก็มักทำให้คู่รักเฮิร์ต (เจ็บปวด) แบบนี้แหละ แทนที่เค้าอยากจะสำเริงสำราญกับแฟนก็ไม่หรอก อยากไปลิงโลดกับกิ๊กคนที่เท่าไหร่ก็ม่ายรุของมันมากฝ่าคำถามคือ หากใครมีแฟนแล้ว แล้วคุณกล้าบอกแฟนตามตรงรึเปล่าว่านอกใจไปมีคนอื่นน่ะ? เอ้า ลองไปถามตัวแทนของฝ่ายหญิงก่อนละกัน น้องตุ้ม วัย 20 เศษ ยืนยันว่ายังไม่เคยนอกใจแฟนนะ แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับตัวละก็ "เรื่องไรจะบอกเค้าล่ะเพ่ แต่น้องว่านะ ถ้าตัวเองจะนอกใจเค้าละก็ แสดงว่าเค้าต้องทำกะหนูก่อนแหง"....โอ๋ โอ๋ อย่าเพิ่งใจแป้วตูมตามไปก่อนสิจ๊ะส่วนน้องบุ๋ม วัย 31 ปี พูดไว้น่าคิดแฮะว่า เรื่องเจ้าชู้หรือนอกใจน่ะเหรอ ส่วนใหญ่ฝ่ายหญิงไม่ค่อยเป็นกันหรอก "จะทำงั้นทำไมล่ะ ถ้าแฟนเค้าเอาใจใส่เราดีอยู่แล้ว ไม่มีใครอยากหาเรื่องใส่ตัว เชื่อดิ่" เออ...น่านน่ะสิ ถ้าแฟนรักเราจริงและยังดีกะเราอยู่ แล้วจะนอกใจไปหาอะไรเนอะงั้นให้ฝ่ายชายพูดมั่ง คุณเอ ท่าทางเป็นหนุ่มทันสมัย วัย 26 ยอมรับว่า การนอกใจแฟนน่ะเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นอย่างนึง ที่ใครๆก็สามารถเผลอใจได้ "แต่ถ้าหากจะให้บอกแฟนตามตรงว่า ผมนอกใจเธอ คงไม่ทำงั้นหรอก ของแบบนี้ใครจะบอกกันตรงฮ่ะ ยกเว้นพวกอยากเลิกกันให้รู้แล้วรู้รอดกันไปเลยนั่นแหละ ถึงกล้าล่ะ" น่านน่ะสิ ขืนกล้าพูดก็แสดงว่ากล้าเลิกกันแหงๆด้านคุณอาร์ม วัย 30 เศษ ตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าผู้ชายนอกใจ ส่วนใหญ่แฟนสาวจะมีเซนส์ (ความรู้สึก) รับรู้ได้เองแหละว่าเค้ากำลังมีคนอื่น "ไม่ต้องให้บอกร้อก รับรองหล่อนรู้แน่ เพียงแต่จะ พูดว่า เธอรู้รึเปล่าเท่านั้น" แหม...เรื่องคอขาดบาดตายหยั่งงี้ถ้าเซนส์และลางสังหรณ์ไม่ดีก็แย่อ่ะดี้ดังนั้น สัปดาห์นี้จึงอยากตั้งข้อสังเกตเท่านั้นแหละว่า มีสัญญาณอะไรบ้างน้อที่บอกได้ว่าแฟนคุณกำลังมีกิ๊ก เช่น...1. เบื่อหน่ายและไม่อยากคุยกับแฟนตัวจริง เป็นสัญญาณ อ.ต.ร.อันตรายอย่างนึงนะถ้าเค้ายังแสดงอากัปอาการว่าสนใจแฟนมากๆละก็ เค้าต้องอยากคุย, อยากใกล้ชิด และอยากหนุงหนิงกะแฟนซี ไม่ใช่เห็นหน้าแฟนแล้วเซ็ง หนำซ้ำยังทำหน้าทำตาคล้ายไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากพูดจาฉอเลาะต่อกระซิกด้วยเหมือนเก่า แล้วหันไปคุยกับเพื่อนอย่างเมามันแทน แถมถ้าทุกเย็น เค้าก็เอาแหละ อ้างว่ามีนัดสังสรรค์กะเพื่อนจึงไม่ค่อยกลับไปทานข้าวที่บ้าน เอ๊ะ...อย่างนี้ก็น่าสงสัยใช่มะ ว่าที่แท้แอบไปดู๋ดี๋จู๋จี๋กะกิ๊กซะละมั้ง 2. นัดกะแฟนแล้วชอบผิดนัดประจำก็คนเค้าไม่อยากสนใจไยดีกันแล้วนี่ แล้วจะให้เค้าจำเรื่องนัดเนิดกะแฟนไปทำมั้ย ฟังแล้วไม่เห็นซู่ซ่าเหมือนนัดกะกิ๊กเลย โห...เวลานัดกะแฟนตัวจริงน่ะทำเป็นอัลไซเมอร์ แต่พอนัดกะกิ๊กแล้ว โอ๊ย...โคตรกระตือรือร้นไปตามนัดเลย แถมยังไปตรงต่อเวลาซะด้วยดิ่ อย่างว่า แฟนมันเก่าเหลาเหย่ แต่กิ๊กยังเอ๊าะแถมหน้าใสไร้ริ้วรอยมาตอแย งี้ยังให้ฟันธงอีกเรอะ ว่าเค้าอยากเจอใครมากกว่ากัน...เชอะ เมื่อไหร่โดนกิ๊กทิ้งแล้วจะรู้สึ้ก!3. อยู่กะแฟนก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ แล้วอ้างว่างานยุ่งหรืองานเยอะ จึงทำท่าสะดิ้งตีตัวออกห่าง สุดท้ายก็ห่างเหินกัน เค้าไปทาง แฟนก็ไปอีกทาง แต่ทางที่เค้าไปน่ะมีกิ๊กรอออเซาะเค้าอยู่น่ะซี อย่างว่า ในเมื่อเขามีคนอื่นซุกไว้ ใจก็ลอยไปหาทางโน้นแหละ จะให้มาคลุกอยู่กะแฟนได้ไง ในเมื่อใจยังไม่อยากอยู่เล้ย4. เค้าไม่ยอมรับโทรศัพท์ใกล้ๆแฟนตัวจริงเด็ดขาดเพราะเกรงว่าแฟนจะได้ยินคำสนทนาที่หยอดคำหวาน และหยอดคำอ้อนระหว่างเค้ากับกิ๊กน่ะสิ ตรงข้ามถ้าเผื่อเป็นโทรศัพท์ของที่ทำงานโทร.มาสอบ ถามอะไรเค้าสักอย่างดิ่ นั่นแหละถึงเป็นข้อยกเว้นที่เค้าจะคว้าโทรศัพท์แล้วเดินมาคุยโขมงโฉงเฉงข้างๆแฟนเลยเชียวล่ะ...อ่ะ ทำไมต้องเป็นงี้เรอะ ก็เค้าอยากโชว์แฟนให้รู้ไงว่า เป็นคนมุ่งแต่งาน แหม...พองานเข้าล่ะอยากโชว์ แต่หากกิ๊กโทร.มาเมื่อไหร่ ถ้าอยู่กะแฟนก็จะทำเป็นไม่รับซะงั้น5. โกหกได้สารพัดเพื่อหลบเลี่ยงไปหากิ๊กบางทีอาการขี้จุ๊ ตอนแรกก็ไม่เนียนหรอก แต่พอทำบ่อยๆ บวกกับแฟนก็ดันใสซื่ออีกต่างหาก จึงคิดไม่ถึงนี่หว่า ว่าเค้าจะโกหกได้หน้าด้านๆ ด้วยการชักแม่น้ำทั้งห้าหนีไปกกกิ๊กสบายแฮ ดังนั้น พอโกหกแฟนได้ครั้งนึง เชื่อดิ่ เดี๋ยวเค้าจะยิ่งติดใจมุสาวาจาอีกแหงๆ ถ้าตราบใดแฟนจับไม่ได้ไล่ไม่ทันซะอย่าง ทีนี้ล่ะ วันหยุดนักขัตฤกษ์ก็อย่าหวังว่าเค้าจะอยู่บ้านเป็นแฟมิลี่แมนนะยะ 6. พวกชอบนอกใจอาจหันมาใช้กลยุทธ์หันมาทำดีกะแฟนก็มีเพื่อให้แฟนตายใจไว้ก่อน ว่าใจเค้าไม่เคยลดเลี้ยวเคี้ยวคด จึงพยายามเอาอกเอาใจแฟนแบบขอไปที แต่ความจริงน่ะอยากไปซบกิ๊กมากกว่ากอดอีแก่ที่บ้านซะอีก เฮ่อ นี่ละฮ้า....พวกไม่ซื่อสัตย์กะแฟนก็เป็นงี้แหละ.

Saturday, May 9, 2009

คุณใจเร็วด่วนรักเกินไปรึเปล่า?

คุณเคยเกิดความรักแบบสายฟ้าแลบบ้างมะ อ๋อ ก็หมายถึงความรักที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วปุ๊บปั๊บ คล้าย รักนี้เกิดขึ้นง้ายง่าย จนไม่น่าเชื่อนั่นแหละ แต่พูดก็พูดเหอะว่า เกือบทุกคนเวลาจะรักใครขึ้นมา ก็รักง่ายและรักเร็วไม่ยิ่งหย่อนกว่ากันนักหรอก เพียงแต่ "รักสายฟ้าแลบ" ของบางคนอาจต้องใช้สมองและการไตร่ตรองเพิ่มขึ้นอีกนิด มากกว่าปล่อยอารมณ์รักให้เลยเถิด และกล้าเดินหน้าชนจนตามจีบ "คนที่ตัวเองหมายปอง" ไว้น่ะซีงั้นมาดูกันดีกว่าว่า การรักใครง่ายๆ นั้นให้ผลดีหรือผลเสียกับ "คนใจง่าย" ...เอ๊ย คนที่มีรักปรู๊ดปร๊าดแบบหุนหันพลันแล่นมั่งอ่ะ? ขอยกตัวอย่างเป็นแซมเปิ้ลให้ฟังใน ด้านดี ก่อนละกัน เช่น....1. การถูกใจหรือรักใครเร็ว ก็ดีไปอย่าง เพราะทำให้คุณมีเป้าหมายแน่นอนไง ว่าคุณจะฝากเลิฟกะคนนี้ส่วนคนอื่นไม่สน แล้วทันใดนั้นคุณก็หลงละเมอเพ้อพกไปวันๆ อย่างมีความสุขว่า เค้าจะเล่นด้วยไหมน้า เออ...แล้วเค้าจะเล่นด้วยกะ "น้า" เอ๊ย "หนู" ไหมล่ะ อิอิ2. การถูกใจใครสักคนอย่างรวดเร็ว (จนใจของตัวเองก็ห้ามไม่ทัน) มีแนวโน้มที่จะทำให้มีคู่เร็วตามไปด้วยน่ะซี ดังนั้น จึงยากที่จะเป็นโสดขึ้นคาน โอ๊ย...เรื่องนี้แทบเลิกคิดไปได้เลย 3. การถูกใจใครเร็วหรือยังไม่ทันไรก็รักเค้าปุ๊บปั๊บเข้าไปแล้ว ทำให้ไม่ต้องปวดเศียรเวียน เกล้า หรือคิดมากว่าจะเลือกใครอีกต่อไปอ่ะดิ่ เพราะตัดสินใจแล้วนี่ ดังนั้น จึงไม่ต้องเครียดกับความลังเลหรือโลเลของหัวใจตัวเอง จะเหลือก็แต่ไป "โมเม" อยากรู้จักมักจี่เค้านี่สิ เอ๊ แล้วสุดท้ายจะลงเอยยังไงจ๊ะ เอาเหอะ ยังไงก็ขอให้เค้าเล่นด้วยละกันนะ จะได้สมปรารถนาซะทีเพี้ยง!4. รักรวดเร็ว มีแนวโน้มทำให้มีครอบครัวไว และมีลูกทันใช้...เฮๆ แต่เดี๋ยวนี้แน่ใจรื้อว่า ลูกมีไว้ให้ใช้ ไม่ใช่ลูกมาใช้เรา งงแฮะเอ๊ะยังไงแน่ส่วนข้อเจี๋ย หรือ ข้อเสีย เหรอฮ้า ได้แก่...1. เมื่อถูกใจใครเร็ว หรือรักเค้าง่ายเหลือเกิน จะทำให้ตัวเองนั่นแหละทรมานใจนะยะ เพราะรักปรู๊ดปร๊าดก็คล้ายไปหลงละเมอถึงเค้าข้างเดียวเหมือนกันแฮะ ในกรณีที่ไม่รู้จักกันกับคนที่หมายปองมาก่อนนะ หรือแม้แต่รู้จักกันแล้ว มันก็ไม่แน่อีกนั่นแหละว่า เค้าจะใจตรงกันกะ คุณรึเปล่า ฮั่นแน่ หยั่งงี้ต้องรีบไปเลียบๆเคียงๆถามเค้าแล้วละซี แต่ขอให้มีศิลปะในการถามเค้าหน่อย ไม่ใช่ถามโป้งเดียวจอด (ซึ่งก็ดีเหมือนกัน...อ้าว) ว่าเค้ากำลังคบใครอยู่รึเปล่า จะได้รู้กันไปเลย แต่ทำงี้เค้าอาจเขิน หรือไม่แน่ใจว่าคุณจะมาไม้ไหน จึงอาจตอบเพื่อให้ความหวังคุณว่า เค้ายังไม่มีใครก็ได้นี่นา2. รักสายฟ้าแลบ อาจทำให้คิดเองเออเองว่า เค้าก็สนใจคุณเช่นกัน ดังนั้น ถ้าคุณไม่รีบ "จอง" เค้าซะก่อน เดี๋ยวเค้าก็ไปคว้าคนอื่นมาเป็นแฟนหรอก! แต่เอ๊ะนี่คุณกำลังหลอกตัวเองรึเปล่า เพราะคุณมีสิทธิ์อะไรจะไปจับจองหัวใจเค้าไม่ให้ไปเลิฟใครได้ เค้าเป็นสิ่งมีชีวิตนะไม่ใช่ สิ่งของหรือรถราในงานมอเตอร์โชว์ให้เลือกจองซะหน่อย3. รักใครง่ายๆน่ะ ถ้าคนที่คุณไปเลิฟ เค้าเป็นคนดีก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ ลองนึกดูละกันว่า บางทีคุณอาจถูกเค้าหลอกให้ตายใจว่า เค้าพิสมัยคุณ แต่จริงๆอาจมีกิ๊กหรือแฟนตัวจริงซุก อยู่ก็ได้ แล้วถ้าความจริงแตกดังโพละ คุณก็ช้ำสิ แถมยังจะมองหน้ากันติดเหรอเนี่ย4. รักสายฟ้าแลบ ทำให้ลืมโลกแห่งความจริง ก็ได้ว่า เค้าเหมาะสมกะคุณแน่นะ เพราะคุณอาจติดใจแต่เฉพาะสิ่งที่พบเห็นภายนอก เช่น เค้าโค-ตะ-ระหน้าตาดีเลย คุณจึงหลงแอบมองและเลิฟเค้าก็เพราะเงี้ย ทั้งๆที่ความรักน่ะ ต้องอาศัยการศึกษากันระยะยาว ไม่ควรหุนหัน พลันแล่นนะหล่อน โธ่ กะอีแค่หน้าตาและคำพูดหวานๆ ไม่ใช่ทุกอย่างของความรัก จำไว้เชอะ5. ถามตัวเองสิว่า อยากมีความรักมากซะจนขอให้ได้รักใครสักคนก็ได้อ่ะเปล่า อ้าวมีนะฮ่ะ คนที่ดิ้นรนอยากมีแฟนซะจนคิดว่าใครอยู่ใกล้ชั้นก็จะจับมาเป็นแฟนซะให้หมด อู๊ย ขืนเป็นงี้อันตรายนะเฟ้ย เพราะมัวแต่ค้นหาและทุ่มเทให้รักซะจนขาดความเป็นตัวของตัวเอง เฮ่อ สงสารตัวเองมั่งเหอะ หรือไม่งั้นก็สงสารคนที่จะถูกจับมาเป็นเหยื่อละกัน ฮิฮิ6. มีเปอร์เซ็นต์ของผู้รักง่ายและรักปุ๊บปั๊บจำนวนน้อยที่ประสบความสำเร็จกับความรักแบบหุนหันพลันแล่น เมื่อเป็นงี้แล้วยังอยากริรักกันรวดเร็วปรู๊ดปร๊าดอีกมะ เอ๊...แล้วทำไงดี ถ้าไม่อยากรักใครเร็วไป หรืออยากระงับความปรู๊ดปร๊าดใจเร็วของตัวเองให้ได้ ก็มีข้อแนะนำนิดๆหน่อยๆ พอเป็นน้ำจิ้ม งี้นะ... เมื่อถูกตาต้องใจใครสักคน อย่าเพิ่งรีบคิดว่า คนนี้แหละคือมหัศจรรย์รักแท้ของคุณ โถ นอกจากรู้จักหน้าตาท่าทางเค้าแล้ว ลองจับตาพฤติกรรมของเค้ามั่งก็ได้ ว่าเหมาะกะคุณไหมไม่ใช่เห็นหน้าตาแบบนี้ไม่น่าจะขี้หลี แต่ขอโทษ โคตรเจ้าชู้เลย ก็ควรศึกษากันก่อน ถ้าเค้ามีทีท่าสนใจคุณด้วย โอ๊ะโอ โป๊ะเชะ เยี่ยมไปเลยสิ จะออกเดต (ไปเที่ยวเพื่อดูใจ) อย่างเป็นเรื่องเป็นราวก็ทำซะ แต่แค่ไปเดตพอนะ อย่าเผลอทำอย่างอื่น เช่น อย่าไปเผลอบอกชอบหรือรักเค้าจนเหมือนคุณคลั่งไคล้อะไรสักอย่าง เดี๋ยวเหอะ เค้าจะงงว่า นี่แค่เดตแรก คุณก็เพี้ยนซะแล้ว งี้อีกหน่อยจะมีเดตกันอีกดีรื้อหัดเก็บอาการไว้มั่งฮี่ถ้าเค้าให้เบอร์โทรศัพท์มาก็อย่าเพิ่งโทร.หากันทั้งที่เพิ่งแยกจากกันไม่ทันเกิน 10 นาทีนะเฟ้ย รอไว้ 3 วัน 7 วัน ค่อยโทร.ไปออเซาะก็ได้ แต่ทางที่ดี อย่าเร่งรีบใจง่ายหน่อยเลยตัว เดี๋ยวเข้าตำรารักง่ายหน่ายเร็ว (เค้าหน่ายเราเร็วนะ) ก็แย่สิยะ.
คลิก Older Posts เพื่ออ่านหน้าต่อไป