ข้อมูลและรูปภาพเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

Friday, January 16, 2009

อาหารพิชิตผมหงอกก่อนวัย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องเจอะเจอปัญหาผมหงอกขาวก่อนวัย ส่วนใหญ่มักแก้ไขด้วยการย้อมสีผม ซึ่งพอช่วยได้บ้าง แต่แน่นอนว่าต้องย้อมกันเป็นประจำตลอดไป แต่คุณทราบหรือไม่ว่า การกินอาหารช่วยคุณได้ เพราะในอาหารบางชนิดมีคุณสมบัติช่วยบำรุงเส้นผม เล็บมือ และผิวของเราอย่างได้ผล
สารอาหาร 4 ชนิด ที่เราอยากแนะนำให้คุณกินต้านผมหงอกก่อนวัย มีดังนี้คะ
Y ทองแดง พบมากในหอยนางรม อาหารทะเล และเมล็ดทานตะวัน (หอยนางรมและอาหารทะเล ต้องระวังคอเลสเตอรอลด้วยค่ะ)
Y กรดโฟลิก พบมากในผักใบเขียวเข้ม แครอท ฟักทอง และถั่วต่างๆ
Y กรดแพนโทเทนิก หรือวิตามินบี 5 พบมากในข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวโพด แอปเปิ้ล และเมล็ดงา
Y พาบา เป็นสมาชิกในกลุ่มวิตามินบีรวม และถือว่าเป็นวิตามินเทียมสามารถละลายน้ำได้ โดยมักอยู่รวมกับกรดโฟลิค พบมากในจมูกข้าวสาลี ข้าวกล้อง โยเกิร์ตและผักใบเขียว

Sunday, January 11, 2009

คนแบบไหน ชอบหักอกคนอื่น

เรื่องนอกอกนอกใจเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย เพราะอาการใจสะออน อ่อนแรง และไม่อยู่ กับเนื้อกับตัว แต่เบนทิศทางไปแสวงหา “ที่หมายใหม่” นั้น...เป็นอะไรที่สังเกตดูดิ่ ว่าบางทีก็หาสาเหตุและเหตุผลได้ แต่หลายครั้งกลับค้นไม่เจอ เหมือนกันว่าทำไมต้อง “นอกใจ” กันด้วย
จึงสันนิษฐานได้อย่าง เอ๊ะแต่จริงๆ คิดได้หลายอย่าง ว่าการนอกใจน่ะ หากไม่เกิดจากความเบื่อหน่ายซึ่งกันและกันแล้วไซร้ อาจเกิดจากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพอเซ็งอีกข้างขึ้นมา ก็เอาแหละ ชิ่งหนีไปซบอกหรือกระแซะคนอื่นที่ไม่ใช่แฟนตัวจริง, รึไม่งั้นก็ไปหาเศษหาเลยแต๊ะอั๋งเอ๊าะๆ ซะเลย เอ้าทำงี้ มันช่วยให้เลือดลมสูบฉีด แถมยังทำให้หัวใจพองโตด้วยนี่หว่า แล้วจะไม่ให้อยากไปจุ๋งจิ๋งกุ๋งกิ๋งและเกาะแกะกะคนอื่นได้ไง? แต่ที่เกริ่นมานี่ก็พูดเรื่องน้ำเน่าไปงั้น
ที่จริงน่ะอยากให้ทายกันมากกว่าว่า คนแบบไหนน้า...ที่จะทำให้ใจของท่านทั้งหลายแตกสลายเป็นเสี่ยงๆได้ ถ้าขืนไปคบกับคนอย่างงี้! โอ้โห อยากรู้กันแล้วใช่ปะ มามะ เริ่มกันที่ผู้มีพฤติกรรมเข้าข่ายต่อไปนี้ได้เลยเช่น 1. พวกที่ไม่มีเพื่อนซึ่งคบกันมาอย่างยาวนานไง
สังเกตดูเด่ะ คนที่ไม่มีเพื่อนสนิทให้คบกันยืดยาวเลยสักคนน่ะ คนพรรค์นี้แหละมีสิทธิ์ทำคุณอกหักหรือมาหักอกคุณได้ ดังนั้น หากท่านใดบังเอิ๊ญ บังเอิญไปคบหาคนข้อนี้เป็นกิ๊กหรือแฟนเข้าละก็ มีโอกาสที่จะ ถูกเค้าทำให้เสียใจได้ ภายหลังน่ะเซ่
เฮ้อ แม้แต่ “เพื่อนสนิท” เค้ายังไม่มีเล้ย แล้วนับประสาอะไรเค้าจะคบกับใครได้ยืด แถมบางคนน่ะแม้แต่ เพื่อนเฉยๆ ยังไม่มีด้วยซ้ำ แล้ว คนที่แม้แต่เพื่อนซึ่งไม่รู้ล่ะว่า เป็นคนเอาหรือไม่เอาเพื่อนเลยสักคนเดียว แบบนี้คิดเรอะว่า จะเป็นคนมีจิตใจอยากผูกสมัครรักใคร่กะใครแบบจริงจัง, มั่นคงและรักแล้วรักเลย....คำตอบคือยาก หรือหากมีก็น้อยมาก
2. พวกจำแม่น แต่จำในสิ่งที่ไม่ควรจำเท่าไหร่นะ เพราะถ้าขี้ลืมสักนิดหรือตัดทิ้งข้อปลีกย่อยของความจำไปบ้าง ชีวิตคงดีกว่านี้แน่
อย่าว่าแต่นิสัยแบบนี้ผู้หญิงบางรายจะเป็นกันเลย แม้แต่ผู้ชายบางคนก็จู้จี้จุกจิก, ขี้บ่นกันจะตาย
พวกนี้มักจำแต่สิ่งไม่ดีหรือเรื่องชั่วๆ ในอดีตของแฟนหรือคนใกล้ชิดเพื่อเอาไปปะทะคารมตอนไม่สบอารมณ์ คนใกล้ชิดไงเล่า! ส่วน สิ่งดีๆ ที่เคยมีต่อกัน ไม่จำหรอก จำอยู่ได้ไอ้เรื่องที่เราอาจเคยพลาดพลั้งทำไม่ดีไปมั่ง ดังนั้น พอเค้าเกิดไม่พอใจขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะเรียบเรียงสิ่งเลวๆ ที่แฟนอย่างเราๆ เคยทำเอาไว้นั้นแหละนำมาฟาดฟันกันตอนมีปากเสียงกันน่ะซี (แต่ขออุบอิบก่อนว่า ข้อนี้ไม่นับคนที่โดนแฟนทำร้ายจิตใจเป็นประจำชนิดไอ้ฝ่ายนั้นมันชั่วจริงๆ หาดีไม่ได้เลย...นะ เพราะถ้าเจอคนอย่างนี้ หรือหลวมตัวไปเป็นแฟนกะ “คนไม่ดีเลยสักอย่าง” ก็ควรเลิกกะมันไปตั้งนานแล้ว)
3. พวกอยากมีอะไรต่อมิอะไรเป็นส่วนตัวมากๆ จะได้โชว์เดี่ยวเยอะๆ
ทั้งอยากมีเวลาเป็นของตัวเอง แล้วยังอยากมี “พื้นที่ส่วนตัว” สูงเป็นดับเบิลของชีวิตคนธรรมดา นี่ก็น่าเกรงขามนักล่ะ นัยว่า ที่เค้าต้องการมีสเปซหรือพื้นที่ส่วนตัวมาก เพราะอยากไปไหนไปได้ ไปแล้วไม่มีใครเกะกะ, ไม่มีใครคอยเป็นตัวถ่วงให้เค้ารำคาญใจ, หงุดหงิดหัวใจและรู้สึกว่า มีใครก็ไม่รุคอยขวางลูกตากูเอ๊ยตูอยู่ได้....งั้นก็อย่าไปตอแยกะเค้าเลย เตือนนี่ไม่ใช่อะไรหรอก เพราะคุณก็จะเบื่อไอ้นี่ด้วยแหละ ไม่รู้คิดว่าตัวเองวิเศษมาจากไหน?
รู้ไว้เถอะ ว่าคนที่ทำให้ใจคุณเจ็บช้ำได้น่ะ เค้าจะดีกะคุณในช่วงแรกๆเท่านั้นแหละ แต่หลังจากนั้น ก็คิดเอาเองละกันว่า เค้าจะตัดเยื่อไม่เหลือใยกะคุณยังไง? เอ...แต่ถ้าอยากเจ็บเพราะ “อีกฝ่ายใจร้าย” ละก็ เชิญเถอะฮ้า ถ้าไม่เคยจะลองดูก็ได้....อิอิ
4. พวกไม่คำนึงถึงจิตใจคนอื่น
เรียกพวกชาเย็น, ใจดำและใจยักษ์ อะไรก็ได้ ขอให้เป็นคนที่ไม่เคยคำนึงว่า คำพูดคำจาของตัวเค้าจะไปกระทบจิตใจอันอ่อนไหวของชาวบ้านชาวช่อง หรือใครๆจะสะดุ้งสะเทือนต่อคำพูดเห่ยๆ ของเค้ารึเปล่า? ก็คือคำจำกัดความของบุคคลในข้อนี้แหละ
ยิ่งหากคนคนนี้ ชอบปากเสีย หรือชอบพูดจาเสียดสี ซึ่งแสดงว่า ไม่ใช่คนมีความจริงใจกะคนอื่นเท่าไหร่ ก็ยิ่งไม่น่าคบมากเท่านั้น เพราะขืนรู้จักกันไปมากๆเข้า เค้าก็ยิ่งทำให้คุณผิดหวัง ผิดหวังและผิดหวังซ้ำซ้อนและลึกซึ้ง จนเจ็บลึกไปนาน...แต่คุณไม่เจ็บนานจริงๆหรอกใช่ม้า
5. พวกเวลาที่อยู่กะคุณมักใจลอยไปหาคนอื่น นี่ก็ใช่
แบบแหม...พออยู่กะเรานะ ชอบทำ “ใจหาย” หรือเหม่อลอยไปไกลโยชน์บ่อยๆ ไงตัว ซึ่งที่จริงเค้าควรมีกะจิตกะใจอยู่กะเรามากกว่าเนอะ แต่ก็นั่นแหละ เค้าจะมีโฟกัสกะคุณเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น พอหลังจากนี้ เค้าก็ไม่สนแล้ว หันไปสนอย่างอื่นที่...
ก.เป็นสิ่งยั่วยวนจิตใจเค้าให้ไขว้เขวไปถึงไหนๆ ได้มากกว่าไม่ดีเรอะ หรือ ข.สิ่งยั่วยุใหม่ๆที่ทำให้เค้าอยากลิ้มลอง จนบางครั้งเค้าก็พลาดพลั้งจนไป “เสียฟอร์ม” คนอื่นอีกที....555 สม...ไงล่ะ
6. พวกชอบจับผิด
ข้อนี้แทบไม่ต้องอธิบาย เพราะพวกชอบจับผิด มักไม่เคยคิดว่าใครหน้าไหนถูกอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น เค้าจึงถูกตลอด, ถูกเสมอ, ถูกทุกเมื่อ...ไม่เบื่อที่จะเป็น “คนถูก” ซึ่งในทางตรงกันข้าม เค้าย่อมเห็นว่าคุณทำอะไรนิดอะไรหน่อยก็ผิดอยู่นั่น ผิดแล้วผิดอีก แถมยังย้ำด้วยว่าคุณเป็นฝ่ายผิด ขนาดถ้าเผื่อคุยกันเรื่องเฮฮาในหมู่เพื่อนฝูงอยู่ดีๆ เค้ายังสามารถบอกได้เลยว่า คุณพูดผิด...เพราะเค้าเห็นว่าคุณผิด (แล้วเค้าถูก) นี่แหละ คุณกะเค้าถึงเข้ากันไม่ได้ แต่เค้าสามารถหักหาญน้ำใจของคุณได้...แล้วงี้จะอโหสิหรือจำไว้เอาคืนดีฮ้า?

Saturday, January 10, 2009

ข้อดีของการผิดหวังในรัก

หากจะผิดหวังบ้าง ก็ไม่เห็นเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร ถือเป็นเรื่องธรรมดาซะด้วยซ้ำ
ถ้ามองกันให้ลึกซึ้งละก็ การผิดหวังในรัก บ้างน่ะ เชื่อสิใครๆก็เคยเจอปรากฏการณ์ ปวดใจแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น คงไม่มีใครสมหวังกับความรักไปซะทุกคนและทุกครั้งหรอก ฉะนั้น หากจะผิดหวังบ้างก็ไม่เห็นเป็นเรื่องเลวร้ายอะไร ถือเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาซะด้วยซ้ำ
แต่การผิดหวังในความรักบางครั้งก็มีข้อดีแฝงอยู่มั่ง เหมือนกันนะตัว เช่น....
1. ทำให้รู้ข้อบกพร่องหรือข้อผิดพลาดของตัวเองไงยะ
ไม่ต้องสังเกตคงรู้ๆกันอยู่ว่า การเลิกรากะใครสักคน ส่วนมากย่อมเกิดจากคู่รักฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือทั้งสองคนเลยแหละ ดันมีพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้คู่รักอีกฝ่ายสะกิดใจขึ้นมาดิ่ว่า ชักไม่ชอบ, ไม่พอใจและอยากหนีไปไกลๆแล้วอ่ะ แถมความรู้สึกนี้มันเหลืออดแล้วด้วย เช่นเจ้าชู้ดีนัก จึงทำให้แฟนเกลียด แต่ตรงข้ามถ้าชอบซื้อของมาประเคนแฟน หยั่งงี้ไม่มีเกลียดหรอกจ้ะ มีแต่เลิฟสิไม่ว่า
ส่วนกรณีสะบั้นรักจากกันนี่ บางทีอยู่ๆกันไปแล้วเพิ่งรู้ว่าไม่ชอบการกระทำของแฟนอ่ะ และอาจเป็นความรู้สึกที่สะสมก็ ได้ใครจะไปรู้ แต่หากตอนเลิกรากัน เราเกิดรู้ ข้อบกพร่อง ของตัวเองเพราะแฟนเก่าสาธยายให้ฟังปาวๆ ต่อไปวันข้างหน้า เราจะได้ปรับ ปรุงตัวให้เป็นสวีตฮาร์ตที่ดีของคนรักคนต่อไปไม่ดีหรอกเรอะ นี่แน่ เค้าถึงว่า มีบท เรียนเป็นครูไงเล่า
2.ในทางตรงข้าม ก็ทำให้เราได้รู้ข้อดีที่ตัวเองมีเช่นกัน
เชอะ เชื่อมะว่า การแยกทางจากกันบางครั้งก็ใช่ว่าเราจะเป็นฝ่ายผิดซะเต็มประตูแต่เพียง ฝ่ายเดียวหรอกนะ ย่อมมีมั่งล่ะวะที่อีกฝ่ายหนึ่งก็มีสิ่งที่ชวนทำให้เราไม่ชอบเช่นกัน เช่น คนนึงขี้จุ๊ ส่วนอีกคนขี้เกียจ ไม่ยอมทำงานทำการ หากตรองดูแล้วก็เลวร้ายครือๆกัน ทว่าขณะที่เราขี้จุ๊ก็จริง แต่ก็เอาใจใส่และรักแฟน เป็นห่วงเป็นใยเค้าเสมอ ซึ่งตรงนี้เค้าอาจไม่เคยทำให้เรารู้สึกได้เหมือนกับที่เราทำให้เค้าก็ได้ จึงถือว่าเรายังมีข้อดีให้เก็บมาชื่นชมด้วยนะเฟ้ย...... คิดซะงี้จะได้สบายใจ แต่อย่าถึงกับเข้าข้างตัวเองแบบข้างๆคูๆ ประเภทไม่ได้ดีจริง แต่คิดว่าตัวเองดี เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าชอบโมเมเว้ยเฮ้ย
3.ได้ทบทวน ความเป็น “คนอย่างเราในอดีต” เพื่อรอรักรีเทิร์นในอนาคต
วันข้างหน้าแม้ไม่มีเค้าเป็นแฟนแล้ว ทีนี้ล่ะ คือช่วงเวลาที่เราจะปรับตัวและหัวใจ ให้โสภาสถาพรขึ้น ด้วยการละทิ้งความเฮงซวยในอดีตของตัวเองไปซะ แล้วค้นหาว่า คนใหม่ที่เราควรเป็นนั้นน่าจะมีคุณสมบัติยังไงมั่งน้า เอ้า ไม่แน่นะ บางทีพอเราเป็นนิววัน (คนใหม่) ขึ้นมา อาจเกิดกรณี “รักรีเทิร์น” ก็ได้ ลองคนเราไม่ได้เกลียดกันเข้าไส้ หรือไม่ถึงกับไม่อยากพบเจอะเจอกันอีกแล้วในชาตินี้ละก็ ย่อมมีโอกาสกลับมาเป็นมิตรกันอีกได้ แล้วการเป็นมิตรกับแฟนเก่าน่ะไม่ดีตรงไหนมิทราบฮ้า
4.ทำให้โตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นไปอีกขั้น
คนที่เคยผ่านความรักและเคยรักคนอื่นมาแล้ว แม้หากผิดหวังหรือ ไม่สมรัก ก็แสดงว่า คุณเริ่มรู้แล้วไงว่า ความรักที่แท้จริงน่ะเป็นยังไง? เพราะบางทีการให้ความรัก อย่างเดียวก็ใช่ว่าจะทำให้การครองคู่ไปได้ตลอดรอดฝั่งนี่หว่า การเป็นแฟนกันยังมีปัจจัย อีกมากมายที่ต่างฝ่ายต่างต้องอาศัยการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นการให้อภัย, การทำเป็นลืมว่าเค้าไม่ดีตรงไหนบ้าง, การเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ หรือปิดตาข้างนึง เวลาเค้าต้องออกไปเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อนๆ แล้วเกิดบ้าจี้อยากไปกะลิ้มกะเหลี่ยอีสาวพริตตี้ขึ้นมา ถ้าไม่เว่อร์ไปก็ปล่อยๆไปมั่งก็ได้ ถือซะว่า ปล่อยให้เค้าสนุกมั่งก็ช่างมันเถอะ ขืนวันไหนกลับมาตายรังแล้วจะเหยียบซ้ำ เอ้ย อ้าแขนรับ แหม ไม่โหดงั้นหรอก รับรองชอบสันติวิธี
5.ทำให้รู้ว่า พร้อมที่จะมีความรักอย่างจริงจังแล้วหรือยัง?
อ่ะ บางทีความไม่สมหวังในรักที่ผ่านมา อาจเกิดจากการที่ทั้งตัวเราและคู่ของเรา ไม่พร้อมที่จะรักกัน แต่สะเหล่อคิดว่าพร้อมหรือเปล่านะ? จึงตกลงปลงใจเป็นแฟนกัน ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นแฟนได้ก็มี ยกตัวอย่าง คู่รักบางคู่ที่ยังไม่สามารถหางานทำมาเลี้ยงตัวเอง ได้เลยจึงต้องแบมือขอจากพ่อแม่ แต่ดันมีแฟนซะและ ซึ่งมีแฟนก็ต้องมีเงิน ดังนั้น เวลาพากันไปเที่ยวไหนๆ หรือไปปาร์ตี้ที่ใด ก็ต้องขอตังค์พ่อแม่ใช้ หากถูกพ่อแม่เอ็ดเอา ให้สำนึกล่ะ หรือพูดในสิ่งที่คุณรับไม่ได้จนเกิดไม่พอใจขึ้นมา “เจ้าคนมีรักเมื่อไม่พร้อม” ก็อาจประชดผู้ใหญ่ได้ สิ่งเหล่านี้มันบั่นทอนความรักของพวกคุณน่ะสิ ถ้าไม่พร้อมก็อย่ารีบ มีเลยแฟนเฟินน่ะ โดยเฉพาะถ้าไม่พร้อมด้านวุฒิภาวะด้วยแล้วจึงเกิดหึงโหด ได้ง่ายอ่ะดิ่
6. ทำให้รู้ว่า โลกนี้ยังมีคนอีกเยอะที่เราจะได้ทำความรู้จักต่อไปในอนาคต
ลองมองออกไปข้างนอกสิ เห็นมะยังมีผู้คนอีกเยอะแยะที่เราไม่รู้จัก ยังไม่เคยคบ ดังนั้น ถ้าพลาดรักครั้งนึงจึงไม่ได้หมาย ความว่าคุณพลาดทุกสิ่งทุกย่างในชีวิตนี่หว่า แต่อย่างว่า พอใจเราไปผูกพันกับใครสักคนแล้วก็มักแกะกันไม่ค่อยออก ยิ่งรักมากก็ยิ่งหวงมาก เฮ้อ...งั้นรักกันในทางสายกลางดีกว่านะฮ้า จะได้ไม่ชีช้ำมาก ทราบแล้วเปลี่ยน.

Monday, January 5, 2009

การทำบุญสะเดาะเคราะห์

คนไทยเรานั้นเชื่อถือเรื่องโชคลางและบาปกรรมกันมาเป็นเวลานานมาแล้ว ส่วนหนึ่งเชื่อกันว่าเมื่อเรามีเคราะห์หรือทุกข์ร้อนต่างๆ นาๆ วิธีหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาสิ่งเลวร้ายต่างๆ ให้ทุเลาเบาบางลงไปบ้าง ก็คือการไปทำบุญ เข้าวัดเข้าวา และที่ขาดไม่ได้สำหรับคนไทยในสมัยก่อนนั้นก็คือการสะเดาะเคราะห์ แต่การสะเดาะเคราะห์ดังกล่าวนี้ มีมากมายหลายอย่างที่เป็นสิ่งสืบทอดจนมาถึงปัจจุบัน บางครั้งเราเองก็เคยไปสะเดาะเคราะห์โดยการปล่อยสัตว์ต่างๆให้เป็นอิสระ แต่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้ด้วยซ้ำไปว่าการกระทำดังกล่าวส่งผลแก่ตัวเราอย่างไร ในทำนองเดียวกัน ถ้าเราต้องการสะเดาะห์เคราะห์เพื่อผลบางอย่างเราจะต้องทำอย่างไร ลองอ่านบทความข้างล่างดู แล้วคุณจะทราบถึงเหตุผลที่คุณเองอาจจะไม่เคยทราบมาก่อนการทำบุญโดยปล่อยสัตว์ต่างๆ1. การปล่อยปลาไหล เป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อให้การกระทำใดๆ หรืองานบางอย่างที่เรามุ่งหวัง ราบลื่น ลื่นไหลเหมือนดังชื่อของปลาไหล ไม่มีติดขัด และอุปสรรคใดๆขัดขวาง2.การปล่อยเต่า เป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อให้ตนหรือใครบางคนที่เราอธิษฐานถึง มีอายุมั่นขวัญยืน หรือถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยอยู่ก็ขอให้หายจากการเจ็บไข้ได้ป่วยนั้นๆ3. การปล่อยหอยขม เป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อขอให้ความทุกข์ ความขมขื่นที่เป็นอยู่ และเป็นเรื่องที่สร้างความกังวลใจให้กับตัวเองจง หมดไป หรือหายไปพร้อมกับหอยขมที่เราปล่อยไป4. การปล่อยนก เป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อขอให้ตัวเราจงพ้นจากความทุกข์ที่ผูกพันอยู่ในชีวิต พ้นจากปัญหา หรือเคราะห์ร้ายใดๆ ที่เหนี่ยวรั้งจิตวิญญาณของคุณให้เป็นทุกข์ ไร้อิสระ การปล่อยนกเป็นเสมือนกับการขอให้ตนได้เริ่มชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิม5. การปล่อยปลาทั่วๆไป เป็นการทำบุญสะเดาะเคราะห์เพื่อขอให้มีความสุขร่มเย็นในชีวิต ทุกข์ใดๆที่ทำให้เดือดเนื้อร้อนใจ ขอให้หมดสิ้นไป แต่โดยความเป็นจริงแล้ว ถ้าคุณทำบุญโดยการซื้อสัตว์อะไรมาปล่อยก็ตาม คุณก็จะได้ผลบุญหนุนนำให้ชีวิตรุ่งเรือง หมดเคราะห์หมดโศกอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าถ้าคุณมีเรื่องทุกข์ร้อน หรือปรารถนาถึงเรื่องใดเป็นพิเศษ ก็ลองทำตามความเชื่อที่มีมาแต่โบราณเหล่านี้ดู เพราะอย่างน้อยที่สุดก็สร้างความสบายใจให้เกิดขึ้นแก่ตัวคุณได้การทำบุญเพื่อสะเดาะเคราะห์แบบเฉพาะกิจการทำบุญเพื่อสะเดาะเคราะห์แบบเฉพาะกิจ หมายถึงการทำบุญเมื่อตัวคุณเองกระทำบาปบางอย่างขึ้นในอดิต แล้วต้องการจะสะเดาะเคราะห์เพื่อผ่อนทุกข์เหล่านั้นจากหนัก ให้ผ่อนคลายเบาบางลง ซึ่งความเชื่อเหล่านี้ถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่งที่คนโบราณถือปฏิบัติสืบต่อกันมาคนแท้งบุตร การทำแท้งเป็นสิ่งที่ถือว่าเป็นการทำบาปอย่างมหันต์ เชื่อกันว่าผู้ที่ไปทำแท้งมานั้นชีวิตจะตกต่ำย่ำแย่ มีแต่เรื่องทุกข์ร้อนหรือไม่ก็จะพบกับช่วงชีวิตที่ลำบาก ไม่อาจจะเจริญรุ่งเรืองได้สักที เหมือนกับจะมีอะไรคอยมาถ่วงอยู่ และจะล้มลุกคลุกคลานไปนานถึง 7 ปีทีเดียว แต่ก็มีความเชื่อกันอีกว่า คุณสามารถสะเดาะเคราะห์เรื่องราวดังกล่าวเพื่อให้ผ่อนคลายเบาบางลงไปได้บ้างโดยมีวิธีดังต่อไปนี้...
ไปซื้อปลาในตลาดสด แล้วนำไปปล่อยที่แม่น้ำ อย่าปล่อยในบึง คลองเล็ก จะกี่ตัวก็ตามแต่กำลังทรัพย์
ต้องปล่อยปลาให้ครบตามอายุของตน
ต้องนับจำนวนปลาแยกกับอีกฝ่ายหนึ่ง เช่นถ้าภรรยาอายุ 25 ปี สามีอายุ 30 ปี ก็แสดงว่าคุณทั้งคู่จะต้องปล่อยปลาทั้งสิ้น 55 ตัว คือฝ่ายหญิงปล่อย 25 ฝ่ายชายปล่อย 30
การทำบุญดังกล่าวไม่กำหนดระยะเวลา คุณจะทำให้เสร็จภายใน 1 เดือน 6 เดือนหรือ 1 ปี ก็ได้ ถ้าทำครบโดยเร็วก็จะหมดเคราะห์ได้เร็วเช่นกันคนทำร้ายผู้อื่นให้ตายหรือพิการสำหรับผู้ที่กระทำผิด โดยทำให้ผู้อื่นพิการ หรือตายโดยที่มิได้ตั้งใจ(รวมถึงสัตว์ต่างๆ) เช่นขับรถชนคนโดยไม่ได้เจตนา จนทำให้เขาผู้นั้นต้องพิการ หรือถึงกับเสียชีวิตก็ตาม การกระทำดังกล่าวถึงแม้ว่าจะไม่ได้เจตนาก็ตาม แต่ก็จะมีผลทางบาปกรรมได้เช่นเดียวกัน การจะสลัดบาปเคราะห์เหล่านี้ หรือผ่อนหนักให้เป็นเบาได้นั้น คนโบราณมีความเชื่อให้กระทำดังนี้..
ไปไหว้พระ ให้ครบ 7 วัด และนำน้ำมนต์ของ วัดนั้นๆ มารดศีรษะ และอาบทั้งร่างกาย
เติมน้ำมันตะเกียงตามวัดต่างๆให้ครบ 7 วัด
ทำบุญปล่อยเต่า ให้ครบเท่าอายุของตน
ถือศีลกินเจอย่างน้อย 29 วัน สิ่งต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนหนึ่งที่ ตกทอดกันมาแต่โบราณกาล ไม่มีใครสามารถจะยืนยันได้ถึงผลที่จะตามมาหลังจากที่คุณได้กระทำตามความเชื่อเหล่านี้แล้ว แต่อย่างหนึ่งที่คุณจะได้รับก็คือการกระทำที่เสริมสร้างกำลังใจให้เกิดขึ้นแก่ตัวคุณเอง เพื่อดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นคงในอนาคต

Saturday, January 3, 2009

สาวแบบไหนที่ผู้ชายอยากได้เป็นแฟน

ลองมองลึกเข้าไปในใจหนุ่มๆ ที่กำลังมองหาแฟนแบบที่อยากควงไปทุกที่อย่างภูมิใจ รักกันจริงรักกันนาน มาดูกันว่าสาวโชคดีเหล่านี้มีคุณสมบัติอะไรที่ผู้ชายมองหา
รู้ๆกันอยู่ว่า ผู้หญิงมีมากกว่าผู้ชาย แต่ไม่ใช่ว่าชายหนุ่มในวัยเดียวกับเราจะอยู่ในข่ายที่ใช้เป็นแฟนได้ทั้งหมด ประมาณว่ามีผู้หญิงเกือบ 40 คนต้องแย่งกันให้ผู้ชายแค่ 20 คนเลือกเป็นแฟน ความจริงที่ไม่สมดุลนี้ชวนปวดใจคุณสาวยุคนี้จริง ๆ เออ.. แล้วพวกผู้ชายเขามองหาอะไรจากสาวที่เขาเลือกเป็นแฟนล่ะ
1. เป็นตัวของตัวเองในทางที่ดี สาวเหล่านี้ ส่วนใหญ่มาจากครอบครัวฐานะดี เธอจึงเป็นผู้มีการศึกษาและความสามารถสูง แม้อยู่ในภาพแวดล้อมที่ดีอยู่แล้ว ก็ยังพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อชีวิตที่สมบูรณ์กว่าเดิมตลอดเวลา
2. ไม่เชื้อเชิญผู้ชาย พวกเธอไม่นิยมการอ่อย ไม่เชื่อการให้ท่า เธอเชื่อว่าหากผู้หญิงเป็นคนเริ่มชวนก่อน จะไม่มีวันรู้เลยว่าผู้ชายสนใจเธอจริง เธออาจเป็นเพียงของเล่นสำหรับเขาเท่านั้นก็ได้
3. เซ็กซี่พอน่ารัก หากอยากโปรยเสน่ห์ให้เขาบ้าง ก็เพียงใช้ท่าทางที่ดูไร้เดียงสา และไม่ต้องประเจิดประเจ้อ เช่นเอื้อมมือไปจับแขนเขาเบา ๆ สักครึ่งวินาที เป็นต้น
4. ไม่รีบร้อนมีเซ็กซ์ การชิงมีเพศสัมพันธ์กันทั้งที่เพิ่งเริ่มรู้จักกัน เป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของความสัมพันธ์ เพราะขณะที่มีเซ็กซ์ เพศหญิงจะปล่อยฮอร์โมนที่เรียกว่า อ็อกซีโทซิน (oxytocin)ซึ่งกระตุ้นความรู้สึกเป็นเจ้าเข้าเจ้าของในตัวคู่นอนมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้ชายขยาด ความสัมพันธ์จึงไม่ยืนยาวก็ด้วยเหตุนี้แหละ
5. แคร์กันบ้าง หยิบยื่นความรู้สึกดี ๆให้กัน ด้วยการกระทำและคำพูด เป็นความประทับใจไม่รู้ลืม ความดีเล็กๆน้อย ๆ ส่วนใหญ่ มาจากน้ำใจ ไม่ใช่น้ำเงิน
6. มีมารยาท ผู้หญิงเลือกผู้ชาย เพราะเขาเป็นคนดี มีมารยาท ผู้ชายก็เช่นกันชอบผู้หญิงที่มีความประพฤติดีงาม เป็นที่ชื่นชมของคนทั่วไป
7. ความรัก เมื่อความสัมพันธ์ดำเนินมาถึงจุดหนึ่ง หนุ่มสาวเข้าใจความรู้สึกที่มีให้กันมากขึ้น อบอุ่นเมื่ออยู่ใกล้ และยอมรับตัวตนของอีกฝ่าย จนในที่สุดความคิดที่ว่า ความสุขของเขาสำคัญไม่น้อยกว่าความสุขของเธอ เมื่อนั้นชายหนุ่มก็จะได้รู้ว่า คนที่เขาค้นหาคือใคร.....
ฝึกไว้นะ สาว ๆ เวลาได้คบหนุ่มสักคนเป็นแฟน จะได้มีอย่างมั่นใจ ไม่ต้องกลัวใครมาแย่ง
คลิก Older Posts เพื่ออ่านหน้าต่อไป