ข้อมูลและรูปภาพเกี่ยวกับจังหวัดภูเก็ต

Saturday, November 22, 2008

ชายปากว่า ตาขยิบเป็นไง?

หลังจากเม้าท์ฝ่ายหญิงว่า “ปากอย่าง ใจอย่าง” แล้ว ถ้าให้ยุติธรรม คราวนี้จึงถึงเวลาแฉความประพฤติ “ปากว่า ตาขยิบ” ของฝ่ายชาย ได้แล้วสินะ ไม่งั้นเดี๋ยวคุณชายทั้งหลายจะน้อยใจเอาว่าทำไมไม่เขียนถึงพวกเค้ามั่ง โอ้ย! เรื่องอย่างนี้ จะพลาดได้เรอะ ใครๆก็หูผึ่งรออยู่แล้ว
แต่ก่อนร่ายยาว ขอบอกก่อนตามธรรมเนียมอันน่ารัก (ของผู้เขียน ขอย้ำว่าคนเขียนน่ารัก 555) ว่า อาการปากกะใจไม่ตรงกันที่จะเล่าให้ฟังต่อไปนี้ ไม่ได้ชวนให้ใครตบตีกัน (เพราะต่อให้จะตบหรือจะกระทืบกัน ไม่เห็นต้องอ่านอะไรก็ลงมือกันแระ) อีกอย่าง ไม่หนับหนุนให้ใครจับผิดใคร, ไม่ใช่หนุ่มทุกคนที่ทำหยั่งงี้ (แต่อาจทำยิ่งกว่านี้....อ้าวเฮ้ย!) แล้วนี่ก็เป็นเรื่องของความสัมพันธ์แบบรักใคร่กลมเกลียว ไปจนแค่รัก, แค่ชอบ หรือไม่รักไม่ชอบ หรือชอบๆรักๆ ก็แล้วแต่จะนิยามกันไป ได้แก่ แต่น แต้น..... 1.หากหนุ่มคิดจะจีบใครสักคน (ไม่ขอระบุว่าเป็นหญิง, ชาย หรือเพศที่เท่าไหร่ละกัน เชิญจีบไปเหอะ ยังไงงานนี้ไม่กีดกันความเลิฟอยู่แล้ว) และพูดว่า “เอ้...ผมเคยเจอคุณที่ไหนมาก่อนน้า?” เฮ้อ ทนไม่ไหวขอแซวหน่อยเถอะว่า “ขี้ตู่” จังเยย แต่ถ้าน่ารักจะหุบปาก ไม่แซวอะไรทั้งสิ้น แถมจะไฟเขียวเปิดทางให้ผ่านตลอดด้วยซ้ำ
ดังนั้น ในเมื่อเค้าอยากตีสนิทและหว่านเสน่ห์ แล้วคุณก๊อ ประสงค์อยาก “เล่นด้วย”...ก็เล่นไปซี ขออวยพรให้สนุกและขอให้เค้ามีเสน่ห์จนชวนหลงใหลได้ปลื้มกันจริงๆเถิ้ด...เพี้ยง!
ส่วนหมายความที่เค้าพูดว่าเคยเจอคุณที่ไหนมาก่อนน่ะเรอะ คือ อยากรู้จักคุณไง จึงแต่งเรื่อง ไปงั้น เอ้า....ใช้วิธีตอแหลไปวันๆ เดี๋ยวก็มีแฟนเอง....ไม่เชื่อลองดูเดะ อีกอย่าง การทักขึ้นมาแบบนี้เพื่อให้อีกฝ่ายยอมพูดด้วยได้ผลนะ
กระนั้น หากเค้าเกิดรู้จัก “คนที่อยากจีบ” มาก่อนจริงๆ ไม่ได้ตู่หรือแต่งเรื่อง ก็ไม่ถือว่าโกหกตลบตะแลง แต่อาจหวังผลพลอยได้ที่จะยิ้มกะคุณ หรือได้รู้จักอย่างเป็นทางการสักทีอ่ะดิ่
2.ถ้าหนุ่มกับ “คนที่เค้าพาไปทานข้าว” ด้วยรู้จักกัน ทว่าพอกินกันอิ่มหนำสำราญบานตะไท เค้าดันพูดขึ้นว่า “เดี๋ยวผมจ่ายเองนะครับ แม้วันนี้ ไม่ได้พกตังค์มามาก แต่ผมจ่ายได้”...ถ้าจ่ายได้ แล้วพูดทำไมเนี่ย?
ฟามหมายที่เค้านึกอยู่ในใจนะเหรอ หนีไม่พ้น-ตูอุตส่าห์บอกแล้วนะเฟ้ย ว่าพกเงินมานิดเดียว แล้ว (อีกฝ่าย) ยังทำเป็นเฉยอีกเหรอ? ช่วยกันออกมั่งสิ-
อย่างว่าล่ะ ถ้าเค้า “เบี้ยน้อย หอยน้อย” ก็ควรเอาใจช่วย ถ้า “ใครเกิดมาแล้วรวยเลย” เรื่องไรสนล่ะว่าจะจ่ายเท่าไหร่ล่ะ....เพียงแต่ไม่น่าพูดเรื่องเงินทองของนอกกายแนวนี้เพราะ ใครๆก็อยากกินอิ่ม ตังค์อยู่ครบ กันทั้งนั้น ยิ่งพูดให้เสียเครดิตตัวเองนี่ กรรมหรือกำกันแน่หว่า?
3.ถ้าเค้าเอ่ยชมอีกฝ่ายว่า “คุณเป็นคนดีจัง” หรือ “ผมไม่เคยเจอคนดีๆอย่างนี้มาก่อนเลย”
แปลง่ายๆ ได้ว่า คุณจะไม่ได้เห็นผมอีกต่อไป น่ะซี เพราะอะไร? ก็เพราะ ถ้า “คนที่เค้าจีบ” ขืนดีเกินไป เค้าก็ไม่อยากจีบให้เสียเวลา (กรณีที่ อีตาคนนี้ไม่ใช่คนดีและไม่ จริงใจนะน้อง) แต่ หากเค้าเป็น คนคิดอยากสร้างครอบครัว อยากลงหลักปักฐานอย่างเป็นเรื่องเป็นราวละก็ จะไม่คิดทำนองนี้ แต่จะกลับตาลปัตร กันเลย เพราะอยากได้สาวที่ดีมาเป็นแม่ศรีเรือน
ส่วนหนุ่มที่ปล่อยสาวดี๊ดี ให้หลุดมือไปน่ะ เป็นพวกชอบ “ฟันแล้วทิ้ง” ไงจ๊ะ แค่อยากสีกายกันเล่นๆ เออเผลอๆ เค้าอาจมีเมียแล้วด้วยซ้ำ
4.หากรู้จักกันไม่เท่าไหร่ แล้วทันใดนั้นเค้าก็หลุดปากว่า “ผมรักคุณ” เชียวรึวะ
แสดงว่าจุดประสงค์ที่เค้าพูดเนี่ย ถ้าเค้าเป็นคนสัปดนปนติดเซ็กซ์จนขึ้นสมอง ก็แปลได้ว่า “ผมอยากเลื้อยบนตัวคุณไงล่ะ....แล้วน้องยังทำเป็นเล่นตัวอยู่ได้”--ต๊าย ตาย นี่ถ้าไม่ (เป็นคน) เลว คิดแบบนี้ไม่เป็น นะเนี่ย
แต่ไปต่อว่าเค้าก็ไม่ได้ เพราะรู้ๆอยู่ว่าหนุ่มๆน่ะ มีฮอร์โมนพลุ่งพล่านด้านนี้มากกว่าสาวๆหลายเท่า ส่วนสาวบางคนก็อยากให้สามีรักรุ่งพุ่งแรงใช่ม้า อิอิ
5.ถ้าเค้าอยากรู้ว่า “คนที่เค้าจีบ” มีแฟน มาแล้วกี่คน? คำถามเนี้ย แฟนใคร, ใครก็อยากรู้ทั้งนั้น รึไม่จริง
ส่วนความหมายน่ะเรอะ เค้าไม่อยากรู้หรอกว่า คุณมีแฟนมาแล้วกี่คน (แต่ถ้าตอบก็ดี) เพราะสิ่งที่อยากรู้มากกว่านั้น คือ เค้าเป็นคนที่ยอดเยี่ยม ขนาดเป็น--ซุปเปอร์แฟนของคุณ--รึเปล่านะเซ่ แต่เอ๊ะ เค้าอยากรู้ต่อรึเปล่า ว่า ซุปเปอร์แฟนนั้น เป็นกันได้ยังไง?
อย่า บอกนะเฟ้ยว่า อยากรู้แค่ว่า ข้าเจ๋งกว่าคนอื่นเท่านั้น! และไม่อยากรู้ต่อว่า ทำไงถึงเจ๋งกว่าคนอื่น? โอ้โฮเฮะ หยั่งงี้ ควรแสดงความเลิศเลอเพอร์เฟกต์ของเค้าออกจริงๆดิ่ ไม่ใช่อยากได้รับคำชมอย่างเดียวเข้าใจ๋ พอหลังจากที่เค้าได้ป้ายเป็น “ซุปเปอร์ แฟน” ของจริงแล้ว เดี๋ยวอีกฝ่ายก็กระหน่ำชมเค้าทั้งวันทั้งคืนเองแหละ เอ๊ะ หรือจะให้ชมกันรวดเดียว 7 วัน 7 คืนดี?
6.หากเค้าพูดว่า “อยากใช้เวลาอยู่กับคุณนานๆ” ฟังแล้วโรแมนติกจัง
นี่ถือเป็นความจริงใจมากที่สุดที่เค้าอยากบอกกับ “คนที่เค้าหมายปอง” ว่า ผมรักคุณเข้าแล้วไงล้า และเค้าหวังด้วยว่า จะได้รับรักตอบจากคุณ ซึ่งหากรักเค้า ก็เซย์เยสไปได้เลย แต่ไม่ใช่ อยู่ๆก็พูดขึ้นว่า เยส (ใช่)ๆ นะ ควรพูดให้งามกว่านี้ดิ่ ว่า ชั้นก็อยากตื่นขึ้นมาเจอหน้าคุณทุกเช้าเหมือนกันละค่ะ ให้หวานกันไปก่อน! ส่วนหนุ่มก็อย่าทำให้หล่อนเสียใจภายหลังละกันนะฮ้า...เฮ้อ นึกแล้วเชียวว่าต้องลงท้าย “เป็นลาง....” อะไรก็เติมกันเอง...อีกแย้ว

No comments:

คลิก Older Posts เพื่ออ่านหน้าต่อไป